
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สหราชอาณาจักร (ยูเค) และสหภาพยุโรป (อียู) สามารถบรรลุการเจรจาข้อตกลงการถอนตัวออกจากอียูของยูเคหรือ “เบร็กซิต” ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนการประชมุสุดยอดผู้นำยุโรปที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17-18 ต.ค. 2019
โดยนายกรัฐมนตรี “บอริส จอห์นสัน” ผู้นำยูเคได้เปิดเผยในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “เราสามารถบรรลุข้อตกลงใหม่ที่ยอดเยี่ยมและสามารถควบคุมได้” โดยต่อจากนี้ทั้ง 2 ฝ่ายต้องทำงานร่วมกันเพื่อร่างกฎหมาย ก่อนที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาและให้สัตยาบันจากรัฐสภาทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
- เช็กผลเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม ส.ก. ใครชนะ เรียลไทม์
- สรุปคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 100% ที่ 2 สุชัชวีร์ เฉือน วิโรจน์ 785 คะแนน
- ดร.เอ้ สุชัชวีร์ เปิดตัวภรรยา คนที่ 2 ลมใต้ปีกในสนามผู้ว่าฯ กทม.
ด้าน “เจเรมี คอร์บิน” หัวหน้าพรรคแรงงานและผู้นำฝ่ายค้านออกมาระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวดูแย่กว่าข้อตกลงที่เคยถูกนำเสนอโดยเทเรซ่า เมย์ อดีตนายกรัฐมนตรีคนก่อนเสียอีก และข้อตกลงของนายบอริสอาจจะถูกปฏิเสธโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ต่างจาก “ฌ็อง‑โคลท ยุงเคอร์” ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปที่ออกมาระบุว่า ข้อตกลงนี้เป็น “ข้อตกลงที่สมดุลและยุติธรรม” โดยทั้ง 2 ฝ่ายเรียกร้องให้ทั้งรัฐสภาทั้ง 2 ฝ่ายกลับมาสู่แนวทางเบร็กซิตแบบมีข้อตกลง
“มิเชล บาร์นิเยร์” หัวหน้าฝ่ายเจรจาของอียูเปิดเผยว่า ภายใต้ข้อตกลงใหม่นั้นไอร์แลนด์เหนือของยูเคยังจะใช้กฎการค้าสอดคล้องกับกฎของอียู โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับสินค้า และไอร์แลนด์เหนือยังจะอยู่ในซิงเกิล มาร์เก็ตของอียูในระยะแรก นอกจากนี้ยังมีการตกลงเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของซิงเกิล มาร์เก็ต ขณะเดียวกันก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายภาษีมูลค่าเพิ่มของอังกฤษ ที่สำคัญคือตัวแทนของไอร์แลนด์เหนือจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะอยู่ภายใต้กฎของอียูต่อไปหรือไม่ในทุก 4 ปี
อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีข้อมูลว่านายบอริสจะขอให้ผู้นำอียูเลื่อนกำหนดเบร็กซิตหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ สภาผู้แทนราษฎรของยูเคได้ผ่านกฎหมายที่กำหนดให้ นายกรัฐมนตรีจะต้องขอขยายกำหนดเวลาจากอียู หากสภาไม่สามารถเจรจาข้อตกลงเบร็กซิตได้สำเร็จภายในวันที่ 19 ต.ค.