“ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ”! โลกร่วมถวายพระพร พิธีราชาภิเษก “จักรพรรดิญี่ปุ่น”

(Pool via AP)

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงาน พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของ “สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ” แห่งญี่ปุ่นที่มีขึ้นในวันนี้ (22 ต.ค.) ท่ามกลางสมาชิกพระราชวงศ์ ผู้นำระดับสูงของญี่ปุ่น และผู้นำต่างชาติจำนวนมาก ที่เดินทางมาเข้าร่วมพระราชพิธีดังกล่าวกันอย่างคับคั่ง

โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ พระชายา ทรงฉลองพระองค์สีขาว ก่อนที่จะเสด็จไปสักการะศาลเจ้าชินโต ภายในพระราชวังอิมพีเรียล กรุงโตเกียว

Kyodo News via AP

ขณะที่ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น หรือ “โซกุย โนะ เรย” (Sokui no Rei) จัดขึ้น ณ พระราชวังอิมพีเรียลในช่วงบ่ายตามเวลาท้องถิ่น โดยสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีเปลี่ยนฉลองพระองค์เป็นสีน้ำตาลส้มตามโบราณราชประเพณี เสด็จขึ้นประทับบนพระราชบัลลังก์ดอกเบญจมาศ แล้วทรงมีพระราชดำรัสประกาศการบรมราชาภิเษกอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางสมาชิกราชวงศ์ ผู้นำระดับสูง และผู้นำต่างชาติ

ISSEI KATO and Issei KATO / various sources / AFP

สมเด็จพระจักรพรรดิทรงมีพระราชดำรัสว่า “ข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และมุ่งมั่นปฏิบัติตามความรับผิดชอบของข้าพเจ้า ในฐานะสัญลักษณ์แห่งรัฐและศูนย์รวมของความสมัครสมานสามัคคีของชาวญี่ปุ่น พร้อมทั้งใส่ใจต่อพสกนิกรและยืนเคียงข้างพวกเขา ด้วยความมุ่งหวังของข้าพเจ้าให้เกิดความสงบสุขท่ามกลางประชาชนและเกิดสันติสุขบนโลก

“ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยสติปัญญาความสามารถและความพยายามอย่างไม่ย้อท้อของผู้คนของเรา จะนำพาประเทศของเราไปสู่ความสำเร็จในการพัฒนา รวมถึงส่งเสริมการสร้างมิตรภาพและสันติภาพในหมู่ประชาคมระหว่างประเทศ และสร้างสวัสดิภาพและความเจริญรุ่งเรืองให้กับมนุษยชาติสืบไป”

หลังสิ้นสุดพระราชกระแส นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะได้เป็นผู้นำกล่าวถวายพระพรชัยมงคล “ขอสมเด็จพระจักรพรรดิทรงพระเจริญ!”

Issei Kato/Pool Photo via AP

ทั้งนี้ การขึ้นครองราชย์สมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ นับเป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 126 โดยมีการเริ่มพระราชพิธีเบื้องต้นไปในเดือน พ.ค. เป็นต้นมา ด้วยพิธีทรงรับการถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ญี่ปุ่น ได้แก่ พระแสงดาบคุซานางิ พระฉายศักดิ์สิทธิ์ยาตะ และอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ยาซาคานิ  ภายหลังจากการสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ พระราชบิดา นับเป็นการเปลี่ยนจากรัชสมัยเฮเซ (สันติสุขทุกหนทุกแห่ง) เข้าสู่ยุคเรวะ (ความสันติปรองดองอันรุ่งเรือง)

Kazuhiro Nogi/Pool Photo via AP

อย่างไรก็ตาม กำหนดการเดิมของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะมีการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครจากพระราชวังอิมพีเรียลไปยังพระราชวังอากาซากะในกรุงโตเกียว ด้วยรถยนต์พระที่นั่งลีมูซีนเปิดประทุน เพื่อให้พสกนิกรเฝ้าชื่นชมพระบารมี แต่เนื่องจาก ประเทศญี่ปุ่นเพิ่งเผชิญพายุไต้ฝุ่นฮาจิบิสที่สร้างความเสียหายอย่างหนักเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้มีการเลื่อนการเสด็จนี้ออกไปเป็นวันที่ 10 พ.ย.

ขณะที่ในช่วงค่ำของวันนี้ยังจะมีการเลี้ยงพระกระยาหารแก่บรรดาแขกผู้ร่วมงานด้วย ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า จะมีการพระราชอภัยโทษแต่ผู้กระทำผิดราว 550,000 คน เนื่องในวโรกาสมหามงคลบรมราชาภิเษกครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ ได้มีพระราชวงศ์และผู้นำต่างชาติเข้าร่วมพระราชพิธีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก อาทิ สมเด็จเจ้าฟ้าชายชาลส์ มกุฏราชกุมารแห่งสหราชอาณาจักร นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของสหภาพเมียนมา นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุงของฮ่องกง รวมถึงนายกรัฐมนตรีลี นักยอน แห่งเกาหลีใต้ แม้ว่าจะความตึงเครียดระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ยังคงคุกรุ่นก็ตาม

Kazuhiro Nogi/Pool Photo via AP
สมเด็จเจ้าฟ้าชายชาลส์ (Koji Sasahara/Pool via REUTERS)
อองซาน ซูจี (Koji Sasahara/Pool via REUTERS)
แคร์รี ลัม (Carl Court/pool photo via AP)
ลี นักยอน (AP Photo/Koji Sasahara)
Kyodo News via AP
Kimimasa Mayama/Pool Photo via AP
Toshifumi KITAMURA / AFP
AP Photo/Aaron Favila
AP Photo/Aaron Favila