
สำนักข่าวบีบีซีรายงาน ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ “สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหราชอาณาจักร (ยูเค)” หลังจากที่มีการพิจารณาอภิปรายข้อตกลงการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของยูเคหรือ “เบร็กซิต” ระหว่างนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรียูเค และนายฌอง คล้อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปที่สามารถเจรจากันได้สำเร็จก่อนหน้านี้

ผลการลงคะแนนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ยูเคปรากฎว่า “เห็นชอบ” ต่อข้อตกลงเบร็กซิตดังกล่าวของนายจอห์นสัน เป็นคะแนน 329 เสียงต่อ 299 เสียง
- เปิดวิธีขอกู้ กองทุนชราภาพ ก่อนอายุ 55 ปี มีเงื่อนไขอะไรบ้าง
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2565 (อัพเดต)
- เปิดประวัติ คังคุไบ ราชินีมาเฟียแห่งมุมไบตัวจริง
แต่การกำหนดกรอบเวลาเบร็กซิตที่จะต้องผ่านร่างกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 31 ต.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะทำผลให้ ส.ส. มีเวลาพิจารณาร่างกฎหมายไม่นานนัก ทำให้ ส.ส. ยูเคมีมติ “ไม่เห็นชอบ” ต่อกรอบเวลาดังกล่าว 322 เสียงต่อ 308 เสียง และเรียกร้องให้การขยายออกไปอีก 3 เดือนเป็นเดือน ม.ค. 2020
นายเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคเลเบอร์และผู้นำฝ่ายค้าน ระบุว่า “ส.ส. ได้ร่วมกันปฏิเสธที่จะก้าวเข้าสู่การพิจารณาถกเถียงที่มีความสำคัญมหาศาลในเวลาเพียง 2 วัน โดยแทบจะไม่มีการแจ้งเตือนหรือการวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากข้อตกลงนี้” พร้อมทั้งระบุว่า นายกฯจอห์นสันเป็น “ผู้ลิขิตความโชคร้ายให้กับตนเอง”

ขณะที่ นายเจคอบ รีส์-ม็อกก์ ผู้นำสภาผู้แทนราษฎรยูเค ระบุว่า ยากมากในการที่กฎหมายดังกล่าวจะผ่านการพิจารณาของทั้งสภาผู้แทนราษฎรและสภาขุนนางก่อน 31 ต.ค. นี้ ซึ่งหลังการออกเสียงดังกล่าว ทำให้นายจอห์นสันต้องระงับการนำร่างกฎหมายของเขาเข้าสู่การพิจารณาของสภา
ด้าน นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานสภายุโรปได้ระบุว่า เขาจะแนะนำให้ผู้นำยุโรป 27 ประเทศยอมรับคำร้องของยูเคในการขยายกรอบเวลาข้อตกลงดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงเบร็กซิตแบบไร้ข้อตกลง
ก่อนหน้านี้ นายกฯจอห์นสันได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. เบนน์ (Benn) ที่กำหนดให้นายกรัฐมนตรียูเคต้องส่งจดหมายไปยังผู้นำอียู เพื่อขอขยายกรอบเวลาเบร็กซิต แต่นายจอห์นสันไม่ยอมลงนามในจดหมาย เพื่อแสดงเจตจำนงว่า ความล่าช้าที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่ความต้องการของรัฐบาลยูเค แต่เป็นความต้องการของรัฐสภาเท่านั้น โดยที่นายจอห์นสันยังคงยืนยันความต้องการที่จะออกจากอียูให้ได้ภายในเดือน ต.ค. เช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม นายกจอห์นสันระบุว่า หากมีการขยายกรอบเวลาเบร็กซิตออกไปจนถึงเดือน ม.ค. หรือนานกว่านั้น จะมีการจัดให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า การเลือกตั้งทั่วไปอาจเกิดขึ้นได้เร็วที่สุดในวันที่ 28 พ.ย. นี้