“สภาล่าง” สหรัฐมีมติเสียงส่วนใหญ่เริ่มกระบวนการ “ถอดถอนปธน.ทรัมป์”

บีบีซี รายงานว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา ซึ่งพรรคเดโมแครตเป็นผู้ครองเสียงข้างมีความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวานนี้ (31 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ในความพยายามเริ่มกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเรียกว่า “บทบัญญัติการถอดถอน” (Article of Impeachment) โดยได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 232 ต่อ 196 เห็นชอบญัตติเพื่อหาแนวทางในการทำประชาพิจารณ์ (Public Hearings)

ทั้งนี้ สมาชิกสภาฯ ได้เห็นชอบกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อใช้ในการไต่สวนประธานาธิบดีทรัมป์ จากกรณีการกดดันให้รัฐบาลยูเครน เปิดสอบสวนข้อกล่าวหาคอร์รัปชั่นคู่แข่งทางการเมืองของเขา ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020

ก่อนหน้านี้ สมาชิกของพรรคเดโมแครต ได้กล่าวหาประธานาธิบดีทรัมป์ ว่ามีการใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และละเมิดกฎหมายความมั่นคงของประเทศชาติ ซึ่งมีรายงานว่านายทรัมป์ ได้กดดันให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ช่วยสืบสวน “โจ ไบเดน” อดีตรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ซึ่งคาดหมายว่าเป็นตัวเต็งที่สำคัญในการเลือกตั้งปีหน้า นอกจากนี้ ยังกล่าวหาถึงลูกชายของเขา ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ “บูริสมา” (Burisma) บริษัทพลังงานของยูเครน ว่าหากมีการทุจริตจริงก็เป็นเรื่องเสียผลประโยชน์ต่อประเทศยูเครน

อย่างไรก็ตาม แม้กระบวนการถอนถอนจะผ่านมติของสภาล่างเป็นที่เรียบร้อย แต่กระบวนการถอนถอนประธานาธิบดีจำเป็นต้องเข้าสู่การพิจารณาอีกครั้งโดยสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในเวลานี้ นอกจากนี้กระบวนการถอดถอนจะสมบูรณ์ได้จะต้องได้รับมติเสียงโหวต 2 ใน 3 เสียง ดังนั้นจึงมองว่าเป็นเรื่องยากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ จะลงสู่ตำแหน่งก่อนเข้าสู่เวทีการเลือกตั้งปีหน้า