ทั่วโลกตื่นตัวกับ “เทรนด์รักษ์โลก” แม้แต่ธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่น หนึ่งในจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของนักเดินทาง ที่ผ่านมา “ญี่ปุ่น” ประสบปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากเกินไป ซึ่งเรียกปัญหานี้ว่า “มลพิษการท่องเที่ยว” นั่นก็คือการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ไม่สัมพันธ์กับสิ่งอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะ “โรงแรมและที่พัก”
เจแปนทูเดย์รายงานว่า ธุรกิจโรงแรมและที่พักในญี่ปุ่นเริ่มปรับตัว โดย “คาซุฮิโกะ นากาอิชิ” ผู้อำนวยการสมาคมไบโอโฮเทลของญี่ปุ่น กล่าวว่า ภาคธุรกิจโรงแรมและที่พักต่างๆ ตื่นตัวที่จะปรับตัวธุรกิจให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตามมาตรฐานของ “โรงแรมไบโอ” ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่บรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ แต่รวมไปถึงเครื่องใช้และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มาจากวัสดุธรรมชาติ ตั้งแต่ ผ้าปูที่นอน ไปจนถึงช้อนส้อม
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ตัดคนกลุ่มไหน ใครได้รับสิทธิบ้าง!
หากเทียบญี่ปุ่นกับประเทศอื่นที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง, รถไฟที่ให้บริการอย่างตรงต่อเวลา และตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ ถือว่าญี่ปุ่นยังทำได้ดี แต่หากพูดถึงโรงแรมและที่พักแบบ “ไบโอสไตล์” ยังล้าหลังอยู่มาก
ทั้งนี้ ในปี 2018 มีโรงแรมและที่พักที่ได้รับการรองรับว่าเป็น “ไบโอสไตล์” สมบูรณ์ 100% กว่า 100 แห่งทั่วโลก พบว่าส่วนใหญ่อยู่ใน 3 ประเทศยุโรปหลัก ๆ ได้แก่ เดนมาร์ก, นอร์เวย์ และสวีเดน ขณะที่ญี่ปุ่นมีเพียง 3 แห่งเท่านั้น ซึ่งอยู่ในจังหวัดนากาโนะ, จังหวัดฟูกูชิมา และฮอกไกโด
สมาคมต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับธุรกิจโรงแรมและที่พักสู่เทรนด์ “สีเขียว” โดยตั้งเป้าแต่ละจังหวัดต้องมีโรงแรมไบโอ 47 แห่ง นอกจากนี้ยังกล่าวถึงเป้าหมายของรัฐบาล กับตัวเลขนักท่องเที่ยวแตะ 40 ล้านคน ในปีหน้าว่า “ใกล้ความจริงมากขึ้นแต่ที่น่าห่วงคือ จำนวนที่พักรับแขก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่นิยมพักในโรงแรมสีเขียวมากกว่า”
“ยูตะ สึโบเนะ” จากองค์การพัฒนาสังคมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กล่าวถึงความท้าทายในการพัฒนาโรงแรมไบโอของญี่ปุ่น คือ “ราคาที่พัก” ซึ่งปัจจุบันยังมีราคาสูงกว่าโรงแรมทั่วไปมาก หากต้องการสร้างความประทับใจที่ต่างออกไป ต้องทำให้ราคาห้องพักเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทุกระดับ
