เดอะ การ์เดียน รายงานว่า ขณะนี้พื้นที่ทั่วนครเวนิสของประเทศอิตาลีกว่า 70% กำลังวิกฤตกับเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เมื่อวานนี้ (17 พ.ย.62) ระดับน้ำทะเลท่วมสูงขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในรอบเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น เจ้าหน้าที่คาดว่าระดับน้ำที่ท่วมสูงอาจจะแตะระดับที่ 1.6 เมตร (หรือมากกว่า 5 ฟุต) หลังจากที่ระดับน้ำลดไปแล้วก่อนหน้านี้
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงสุดในรอบ 53 ปี แตะระดับที่ 1.87 เมตร ทำให้พื้นที่เกือบทั้งหมดของนครเวนิสแห่งนี้จมอยู่ใต้น้ำทันที ขณะเดียวกัน ทางการท้องถิ่นได้ประกาศสั่งปิด “จัตุรัสเซนต์มาร์ก” รวมไปถึง ประธานาธิบดี เอนริโก รอสซี ได้ประกาศเตือนภัยน้ำท่วมว่า อาจขยายพื้นที่ไปยังเมืองอื่นๆ เช่น เมืองฟลอเรนซ์ และเมืองปิซ่า
ลุยจิ บรุกนาโร นายกเทศมนตรีของนครเวนิส ได้ประกาศเรียกร้องให้ผู้คนทั่วโลกร่วมกันฟื้นฟูเมืองมรดกโลกแห่งนี้ ซึ่งได้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับบริจาคเงินสำหรับการบูรณะอีกครั้งหลังจากที่ระดับน้ำลดลง โดยได้โพสต์ข้อความบนทวีตเตอร์ว่า “ที่แห่งนี้เป็นความภาคภูมิใจของอิตาลีและมรดกโลกของทุกคน ผมขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยให้ที่แห่งนี้ส่องสว่างขึ้นอีกครั้ง”
โดยได้ประเมินความเสียหายก่อนหน้านี้ว่า เหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านยูโรแล้วในตอนนี้ ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นประเมินด้วยว่า อาจจะต้องใช้งบประมาณในการฟื้นฟูประมาณ 20 ล้านยูโร