สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาได้ลงนามรับรอง “กฏหมายสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกง” เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลจีน ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังอยู่ระหว่าง “การเจรจาการค้าเฟสแรก” ที่ใกล้ลุล่วง
ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์ว่า “ผมลงนามในกฎหมายฉบับนี้ด้วยความเคารพต่อ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประเทศจีน และประชาชนชาวฮ่องกง โดยหวังว่ากฎหมายฉบับนี้จะยุติความขัดแย้งของทุกฝ่าย”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตั้ง “ข้อสงวน” สำหรับเนื้อหาบางส่วนของกฎหมายฉบับนี้ไว้ โดยอ้างว่าเนื้อหาบางมาตราแทรกแซงอำนาจของประธานาธิบดีในการกำหนดนโยบายต่างประเทศ ทั้งนี้คาดว่าการตั้งข้อสงวนของประธานาธิบดีคือ การให้คำมั่นกับรัฐบาลจีนว่าจะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรตามกฎหมายนี้ก็ต่อเมื่อทางการจีนดำเนินการปราบปรามผู้ประท้วงฮ่องกงอย่างรุนแรงเท่านั้น
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังลงนามรับรองกฎหมายอีกฉบับซึ่งสั่งห้ามส่งออกอาวุธสำหรับการควบคุมฝูงชนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงอีกด้วย
ทั้งนี้ ทางการจีนได้ออกมาตอบโต้สหรัฐในวันนี้ (28 พ.ย.) โดยแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า สหรัฐอาจเผชิญกับผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ หากยังคงดำเนินการโดยไม่คำนึงถึงอำนาจอธิปไตยของจีนบนเกาะฮ่องกง ขณะที่ตัวแทนคณะผู้บริหารฮ่องกงกล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้จะยิ่งส่งเสริมการกระทำผิดของกลุ่มผู้ประท้วงและยังเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกงอีกด้วย