“ทรัมป์” จี้เก็บภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม “อาร์เจนตินา-บราซิล” ชี้ส่งออกมะกันเสียเปรียบ

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริการะบุว่า จะพิจารณาขึ้นอัตราภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าจากบราซิลและอาร์เจนตินา โดยชี้ว่าทั้งสองประเทศมีสกุลเงินที่อ่อนค่าทำให้ได้เปรียบในการส่งออกสินค้า พร้อมทั้งเรียกร้องให้ธนาคารกลางของสหรัฐ (เฟด) ใช้มาตรการลดค่าเงินดอลลาร์เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าเกษตรของสหรัฐ

โดยทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า “บราซิลและอาร์เจนตินาได้ควบคุมการลดค่าเงินของตนเอง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเกษตรกรของเรา ดังนั้นผมจะรื้อฟื้อมาตรการทางภาษีสำหรับเหล็กและอะลูมิเนียมทั้งหมดที่ส่งมายังสหรัฐจากประเทศเหล่านั้น และธนาคารกลางควรจะมีมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศต่าง ๆ จำนวนมากได้ประโยชน์จากเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าของเราอีกต่อไป สิ่งเหล่านี้สร้างความยากลำบากอย่างไม่เป็นธรรมให้กับผู้ผลิต และเกษตรกรของเราในการส่งออกสินค้าของพวกเขา ลดอัตราดอกเบี้ยและใช้นโยบายผ่อนคลาย เฟด!”

หลังจากมีความเคลื่อนไหวของสหรัฐดังกล่าว ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโรของบราซิลได้ออกมาระบุว่าจะเร่งเจรจากับประธานาธิบดีทรัมป์โดยเร็ว โดยกล่าวว่า “เศรษฐกิจของเขาไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับเราได้ มันใหญ่กว่าหลายเท่า ผมไม่เห็นว่านี่คือการตอบโต้ ผมจะเจรจากับเขา เพื่อไม่ให้เขาทำเช่นนี้กับเรา รายได้ของเราโดยพื้นฐานมาจากสินค้าโภคภัณฑ์” ขณะที่นายดันเต ซิกา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการผลิตของอาร์เจนตนาก็ระบุว่าจะเจรจากับสหรัฐด้วยเช่นกัน

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งบราซิลและอาร์เจนตินาได้พยายามใช้มาตรการอุดหนุนค่าเงินของตนเองที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสถานการณ์วุ่นวายทางการเมืองและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ แม้ว่าสหรัฐจะพยายามเรียกร้องให้รัฐบาลของสองประเทศเร่งนโยบายการอุดหนุนค่าเงิน ซึ่งเป็นการสร้างความได้เปรียบให้กับสินค้าของทั้งสองประเทศในการแข่งขันกับสินค้าส่งออกของสหรัฐ เนื่องจากสินค้าส่งออกของบราซิลและอาร์เจนตินามีราคาถูกกว่าเพราะค่าเงินอ่อน

ในปี 2018 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เรียกเก็บภาษีการนำเข้าเหล็ก 25% และอะลูมิเนียม 10% ในบางพื้นที่ของสหรัฐ แต่มีข้อยกเว้นสำหรับการนำเข้าจากบางประเทศรวมถึงบราซิลและอาร์เจนตินาด้วย ซึ่งแม้จะได้รับการยกเว้นการเก็บภาษีแต่ก็ต้องจำกัดการส่งออก ทั้งนี้ บราซิลเป็นผู้ส่งออกเหล็กรายใหญ่อันดับ 10 ของโลกและสหรัฐเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุด โดยสินค้าเหล็กมีสัดส่วนถึง 3.7% ของสินค้าทั้งหมดที่บราซิลส่งออกในปี 2018

ก่อนหน้านี้ หลายประเทศได้ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้การเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมที่สูงขึ้นของทรัมป์ อย่างจีนที่ขึ้นภาษีสินค้าเกษตรของสหรัฐซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของตอบโต้ในสงครามการค้า


การขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมของบราซิลและอาร์เจนตินาครั้งนี้ของสหรัฐถูกมองว่า เป็นความพยายามช่วยเหลือเกษตรในชนบทของสหรัฐที่เป็นฐานเสียงสำคัญของประธานาธิบดีทรัมป์ และอาจทำให้ทั้งสองประเทศหันไปพึ่งพาจีนมากยิ่งขึ้น