หวั่นเฟรนช์ฟรายส์ขาดตลาด! “อเมริกาเหนือ” หนาวจัด “มันฝรั่ง” เสียหายหนัก

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นในตอนเหนือของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากพายุเฮอริเคนโดเรียน กำลังสร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรผู้ปลูก “มันฝรั่ง” ส่งผลให้อาจเกิดการขาดแคลนมันฝรั่งสำหรับบริโภค ทำให้หลายพื้นที่เริ่มมีการกักตุนมันฝรั่งและราคาอาหารที่ทำจากมันฝรั่งอย่าง “เฟรนช์ฟรายส์” ก็ปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ อากาศเย็นได้แผ่ปกคลุมอเมริกาเหนือตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา โดยได้สร้างความเสียหายให้กับมันฝรั่งที่ถูกน้ำค้างแข็งปกคลุมทำให้ชื้นและเน่าเสีย แม้จะมีเกษตรกรในบางพื้นที่ที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้บางส่วนอย่าง ในรัฐอัลเบอร์ตาของแคนาดาและรัฐไอดาโฮของสหรัฐ แต่ก็มีในเกษตรกรในหลายพื้นที่ที่ต้องทิ้งผลผลิตจำนวนมากอย่างเช่น ในรัฐแมนิโทบาของแคนาดา รัฐนอร์ทดาโกตาและรัฐมินนิโซตาของสหรัฐ ที่มันฝรั่งได้รับความเสียหายทั้งจากหิมะและฝน

จากสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้ความต้องการมันฝรั่งเพิ่มสูงขึ้นทั่วอเมริกาเหนือ รวมถึงอาหารแปรรูปจากมันฝรั่งอย่างเฟรนช์ฟรายส์ด้วย นายสตีเฟน นิโคลสัน ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสของธนาคารราโบแบงก์ (Rabobank) ระบุว่า ต้นทุนการนำเข้าส่งออกมันฝรั่งอาจเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากสหรัฐไม่สามารถส่งออกได้ในปริมาณมาก

ขณะที่ นายทราวิส แบล็กเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายความสัมพันธ์อุตสาหกรรมของคณะกรรมการมันฝรั่งของรัฐไอดาโฮ ระบุว่า “ความต้องการเฟรนช์ฟรายส์ที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่วัตถุดิบมีไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการ”

สมาคมผู้ปลูกมันฝรั่งแห่งแคนาดาประมาณการว่า มีพื้นที่ปลูกมันฝรั่งราว 12,000 ไร่หรือ 18% ของพื้นที่เพาะปลูกในรัฐแมนิโทบาซึ่งเป็นรัฐเพาะปลูกมันฝรั่งอันดับ 2 ของแคนาดาถูกทิ้งร้างไม่ได้รับการเก็บเกี่ยว ขณะที่รัฐอัลเบอร์ตาซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกอันดับ 3 ก็มีพื้นที่เพาะปลูกราว 6.5% ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำค้างแข็ง ส่วนรัฐปรินซ์เอ็ดเวิร์ดไอแลนด์ซึ่งมีพื้นที่ปลูกมันฝรั่งมากที่สุดในแคนาดา ยังไม่มีการเปิดเผยความเสียหายอย่างเป็นทางการ

ส่วนกระทรวงเกษตรของสหรัฐคาดการณ์ว่า ผลผลิตมันฝรั่งของสหรัฐจะลดลงถึง 6.1% ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับจากปี 2010 โดยรัฐไอดาโฮซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกสูงที่สุดในประเทศคาดว่าจะลดลง 5.5%