“อินเดีย” ระอุ ม็อบลุกฮือต้านกม.สัญชาติใหม่ ปมกีดกั้นศาสนา

สำนักข่าวบีบีซีรายงานสถานการณ์การประท้วงต่อต้านกฎหมายใหม่ของอินเดีย ที่จะให้สัญชาติอินเดียแก่คนที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมใน 3 ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมมองว่า เป็นการเลือกปฏิบัติและเป็นการลดทอนอำนาจชาวมุสลิมของรัฐบาลชาตินิยมฮินดูที่นำโดยพรรคภารติยะ ชนตะ (บีเจพี) ในปัจจุบัน

โดยกฎหมายดังกล่าวจะให้สิทธิสัญชาติอินเดีย แก่ผู้อพยพที่ลักลอบเข้ามาในอินเดียอย่างผิดกฎหมายจากประเทศอัฟกานิสถาน บังคลาเทศ และปากีสถานที่พำนักและทำงานในอินเดีย 6 ปีขึ้นไป ซึ่งให้สิทธิแก่ผู้ที่นับถือศาสนาฮินดู ซิกข์ พุทธ เชน ปาร์ซี และคริสต์เท่านั้น โดยยกเว้นผู้นับถือศาสนาอิสลามที่จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าว นับเป็นการแก้ไขกฎหมายพลเมืองอินเดียเดิมที่บังคับใช้มานานถึง 64 ปีที่เคยบัญญัติห้ามมิให้ผู้อพยพย้ายถิ่นอย่างผิดกฎหมายได้รับสัญชาติอินเดีย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียได้ให้เหตุผลว่า กฎหมายดังกล่าวมีเป้าหมายในการปกป้องผู้คนจากการกดขี่ข่มเหงทางศาสนาในประเทศอื่น โดยกฎหมายนี้ “จะไม่มีผลกระทบต่อพลเมืองอินเดียทั้งชาวฮินดู ชาวมุสลิม ชาวซิกข์ ชาวเชน ชาวคริสต์ และชาวพุทธ” และยังได้กล่าวหาผู้ที่ปลุกระดมมวลชนว่า “โกหกและปล่อยข่าวเท็จ” และใช้ความรุนแรงเพื่อสร้าง “บรรยากาศแห่งการหลอกลวงและความเท็จ”

อย่างไรก็ตาม การประท้วงได้แพร่กระจายไปในเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศอินเดีย โดยผู้ประท้วงโจมตีว่า กฎหมายนี้เป็นการกีดกันและละเมิดรัฐธรรมนูญตามหลักการไม่เลือกปฏิบัติต่อความเชื่อทางศาสนา ซึ่งความศรัทธาไม่ควรเป็นเงื่อนไขในการได้รับสิทธิพลเมือง

ทั้งนี้ การประท้วงได้มุ่งความสนใจไปที่กฎหมายดังกล่าวน้อยลง เนื่องจากความไม่พอใจของผู้ชุมนุมในขณะนี้มุ่งไปที่ การใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อกลุ่มผู้ชุมนุมมากขึ้น โดยในวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมามีการปะทะกันรุนแรงในกรุงนิวเดลีระหว่างผู้ชุมนุมที่เป็นนักเรียนนักศึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน