สหรัฐแซงก์ชั่น “นอร์ดสตรีม 2” ศึกท่อก๊าซรัสเซีย-สหรัฐ ?

FILE- (Bernd Wuestneck/dpa via AP)

การขยายตัวของอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติในประเทศ “รัสเซีย” กำลังเป็นที่ประหวั่นพรั่นพรึงของสหรัฐอเมริกา หลังจากที่บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซียเปิดตัวโครงการ “นอร์ดสตรีม 2” (Nord Stream 2) ซึ่งเป็นโครงการวางท่อส่งก๊าซขนาดใหญ่เชื่อมต่อรัสเซียและ “เยอรมนี” ซึ่งหากโครงการนี้สำเร็จจะเพิ่มปริมาณการส่งออกก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังยุโรปอีกมหาศาล และเพิ่มอิทธิพลให้รัสเซียกลายเป็น “เจ้าตลาดพลังงานโลก” จากที่เป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ในขณะนี้

“บีบีซี” รายงานว่า สถานการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุให้สภาคองเกรสของสหรัฐได้เร่งผ่าน “กฎหมายการป้องกันประเทศปี 2020” (2020 National Defense Authorization Act) ซึ่งมีส่วนหนึ่งที่ระบุถึงโครงการวางท่อก๊าซของรัสเซียว่าเป็นเครื่องมือในการบังคับข่มขู่และคุกคามความมั่นคง จึงจำเป็นต้องมีการแซงก์ชั่นบุคคลและบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโครงการนอร์ดสตรีม 2 ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัท “ก๊าซพรอม” (Gazprom) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้การดำเนินงานโดยรัฐบาลรัสเซียที่เป็นเจ้าของโครงการดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เคยระบุว่า โครงการท่อก๊าซนี้จะทำให้เยอรมนีกลายเป็น “ตัวประกันของรัสเซีย” และเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายทรัมป์ก็ได้ลงนามอนุมัติกฎหมายแซงก์ชั่นดังกล่าว สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งให้กับรัสเซีย เยอรมนี ไปจนถึงสหภาพยุโรปที่ได้ออกมาตอบโต้มาตรการดังกล่าวของสหรัฐในทันที

“เฮโก มาส” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี ระบุว่า มาตรการแซงก์ชั่นของสหรัฐเป็นการแทรกแซงกิจการภายในและอำนาจในการตัดสินของยุโรป ขณะที่ “อุลริเคอร์ เดมเมอร์” โฆษกประจำรัฐบาลเยอรมัน ได้ระบุว่า “รัฐบาลเยอรมันไม่ยอมรับการแซงก์ชั่นนอกเขตอำนาจดังกล่าว”

ส่วนโฆษกพาณิชย์ของสหภาพยุโรปให้สัมภาษณ์กับ “เอเอฟพี” ว่า “โดยหลักการแล้ว สหภาพยุโรปคัดค้านการแซงก์ชั่นบริษัทในยุโรปที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย”

ด้าน “มาเรีย ซาคาโรวา” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังส่งเสริมอุดมการณ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันทางธุรกิจระดับโลก พร้อมระบุว่า “รัสเซียได้รับทราบและยังคงตระหนักถึงโครงการทางเศรษฐกิจที่เป็นอิสระจากการแซงก์ชั่นใด ๆ”

แม้ว่าสหรัฐจะอ้างเรื่องความมั่นคง แต่กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียตอบโต้ว่า มาตรการแซงก์ชั่นนี้เป็นความพยายามที่ผูกขาดการขายก๊าซธรรมชาติเหลวของสหรัฐในยุโรป ซึ่งมีราคาสูงกว่าก๊าซที่ส่งผ่านท่อก๊าซจากรัสเซีย และหลายฝ่ายยังมองว่า สหรัฐหวาดกลัวว่ารัสเซียจะเข้ามาครองอิทธิพลในตลาดพลังงานของยุโรป ซึ่งจะทำให้สหรัฐสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในการส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลวมายังยุโรปด้วย

ทั้งนี้ โครงการนอร์ดสตรีม 2 เป็นโครงการวางท่อก๊าซขนาดใหญ่ ความยาว 1,225 กิโลเมตร ใต้ทะเลบอลติก เชื่อมต่อพื้นที่ อัสต์ ลูกา (Ust Luga) ในแคว้นเลนินกราดของรัสเซียกับเมือง ไกรฟส์วาลด์ (Greifswald) ของเยอรมนี โดยมีมูลค่าการก่อสร้างราว 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

หากโครงการท่อก๊าซนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ จะทำให้รัสเซียส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปได้มากถึง 55,000 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากสหรัฐจะเกรงกลัวการขยายอิทธิพลของรัสเซียในอุตสาหกรรมพลังงานในยุโรป เนื่องจากปัจจุบันรัสเซียเป็นผู้ส่งออกก๊าซรายใหญ่ไปยังยุโรปถึง 40% ของปริมาณนำเข้าก๊าซของยุโรปทั้งหมด

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา “รัสเซียและจีน” ยังได้ร่วมกันทำพิธีเปิดตัวโครงการวางท่อก๊าซขนาดใหญ่ความยาว 3,000 กิโลเมตร ในโครงการ “พาวเวอร์ออฟไซบีเรีย” ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทก๊าซพรอมด้วยเช่นกัน โครงการดังกล่าวจะเป็นการส่งออกก๊าซธรรมชาติจากไซบีเรียไปยังพื้นที่ตอนเหนือของจีนเป็นเวลาถึง 30 ปี ยิ่งเป็นการตอกย้ำอำนาจด้านพลังงานของรัสเซีย

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.รัสเซียยังได้ประกาศบรรลุข้อตกลงกับยูเครนในการส่งผ่านก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปเป็นเวลา 5 ปี โดยส่งออกก๊าซธรรมชาติในปริมาณ 65,000 ล้านลูกบาศก์เมตรในปี 2020 และส่งต่อเนื่องเป็นปีละ 40,000 ล้านลูกบาศก์เมตรในปีถัด ๆ ไป สร้างความโล่งใจให้กับยุโรปที่จำเป็นต้องพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย หลังจากที่ต้องกังวลมาอย่างยาวนานจากการที่รัสเซียข่มขู่ว่าจะยุติการส่งก๊าซธรรมชาติทั้งหมดหากเกิดข้อพิพาทระหว่างรัสเซียและยูเครน

ทั้งนี้ หากโครงการนอร์ดสตรีม 2 สำเร็จก็ยิ่งทำให้ยุโรปไม่ต้องกังวลจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนอีกต่อไป แต่ยุโรปต้องพึ่งพาก๊าซจากรัสเซียมากยิ่งขึ้น ซึ่งหมายความว่า รัสเซียจะยิ่งมีอำนาจในการต่อรองประเด็นต่าง ๆ ในยุโรปมากยิ่งขึ้นด้วย และนั่นคือสิ่งที่สหรัฐหวาดกลัว แต่เยอรมนียังคงยืนยันอย่างหนักแน่นว่าการบริหารท่อก๊าซจะอยู่ภายใต้การควบคุมของยุโรป

แม้ว่า “ออลล์ซีส์” (Allseas) บริษัทสัญชาติสวิส-ดัตช์ที่เป็นผู้วางท่อก๊าซในโครงการนอร์ดสตรีม 2 ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทได้ระงับการดำเนินการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับโครงการแล้วหลังการแซงก์ชั่นเพื่อรอดูท่าทีของสหรัฐต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโครงการนอร์ดสตรีม 2 ยังคงยืนยันว่า “การดำเนินโครงการให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความมั่นคงทางพลังงานในยุโรป ซึ่งเราและบริษัทที่สนับสนุนโครงการนี้จะดำเนินงานวางท่อก๊าซให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”