สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจของกระทรวงสถิติอินเดีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 ม.ค. 2020) พบว่าอัตราเงินเฟ้อของอินเดีย เมื่อเดือน ธ.ค. 2019 เพิ่มขึ้น 7.35% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 6.20%
โดยในรายงานระบุว่าการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อมีสาเหตุจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าประเภทอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราคาผักสดและเนื้อสัตว์ ทั้งนี้ราคาสินค้าประเภทดังกล่าว เมื่อเดือน ธ.ค. 2019 เพิ่มขึ้นถึง 14.12% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ราคาหัวหอมซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับอาหารของชาวอินเดียเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า นับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2019
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ผันผวนจากสาเหตุความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่านยังส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อของอินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก โดยราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นสู่ระดับ 70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เมื้อต้นเดือนนี้ ท่ามกลางความตึงเครียดของภูมิภาคตะวันออกกลาง
ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อล่าสุดของอินเดียสูงกว่ากรอบบนของเป้าหมายเงินเฟ้อที่ทางธนาคารกลางอินเดียตั้งไว้ที่ระดับ 6% และยังมากกว่าค่ากลางของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 4% เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าทางธนาคารกลางอินเดียอาจจำเป็นต้องปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจของประเทศซึ่งกำลังชะลอตัว โดยรัฐบาลอินเดียคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศในปี 2019 เพียง 5% เท่านั้น ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี
