“รมต.ญี่ปุ่น” เตรียมลาเลี้ยงลูก หวังเป็นแบบอย่างให้ผู้ชายกล้าลางาน “ทำหน้าที่พ่อ”

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า “ชินจิโระ โคอิซุมิ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่น ประกาศว่าจะลาจากการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีชั่วคราวเพื่อทำหน้าที่พ่อ หลังจากที่ “คริสเทล ทาคิกาวา” ภรรยาของเขามีกำหนดคลอดบุตรคนแรกในสิ้นเดือนนี้ โดยโคอิซุมิต้องการให้เป็นแบบอย่างแก่ผู้ชายชาวญี่ปุ่นในการสร้างสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตและการทำงาน

ทั้งนี้ โคอิซุมิจะหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยยังไม่มีกำหนดเวลาที่ชัดเจน แต่จะเป็นช่วง 3 เดือนแรกหลังการคลอดบุตรของเขา

นโยบายการลางานเพื่อเลี้ยงดูบุตรของญี่ปุ่นเป็นนโยบายที่ครอบคลุมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยสามารถลางานได้และมีสิทธิ์ได้รับค่าจ้างบางส่วนระหว่างการลางาน ภายในระยะเวลา 1 ปีหรือนานกว่านั้น หากไม่สามารถหาสถานที่สาธารณะรับเลี้ยงดูบุตรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานของรัฐที่ได้รับสิทธิดังกล่าวได้ง่ายกว่าภาคเอกชน

โดยการลางานในลักษณะดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี “ชินโสะ อาเบะ” ของญี่ปุ่น ที่ต้องการส่งเสริมให้ผู้ชายญี่ปุ่นลางานเพื่อทำหน้าที่พ่อมากขึ้น เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตและการทำงาน และเป็นส่วนหนึ่งของการโครงการ “Womenomics” ของรัฐบาลในการสนับสนุนการจ้างงานผู้หญิงมากขึ้นด้วย

แต่จากข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่นพบว่า มีผู้ชายญี่ปุ่นเพียง 6% เท่านั้นที่ใช้สิทธิ์ลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรและส่วนใหญ่ลางานน้อยกว่า 1 สัปดาห์ แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ที่มีผู้ใช้สิทธิ์เพียง 3% แต่ก็ยังคงน้อยกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ตั้งเป้าไว้ที่ 13% ภายในปี 2020

ทั้งนี้ โคอิซุมิเป็นบุตรชายของ “จุนอิจิโร โคอิซุมิ” อดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น โดยเขาถูกมองว่าเป็นทายาททางการเมืองและอาจก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญของญี่ปุ่นในอนาคต การลางานเพื่อเป็นแบบอย่างให้กับชายชาวญี่ปุ่นครั้งนี้จึงเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางรายได้วิพากษ์วิจารณ์การลางานเพื่อเลี้ยงดูบุตรของโคอิซุมิว่า เขาควรให้ความสำคัญของหน้าที่รัฐมนตรีของเขาต่อสาธารณชนมากกว่า

โคอิซุมิระบุว่า “จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ผู้ชายถึง 80% ในระบบแรงงานระบุว่า เขาต้องการลางานเพื่อทำหน้าที่พ่อ แต่มีเพียง 6% เท่านั้นที่ทำจริง และตอนนี้ผมเข้าใจเหตุผลของช่องว่างนี้ มีผู้ชายจำนวนมากต้องเผชิญความขัดแย้งเช่นนี้ คืออยากจะลางาน แต่ไม่สามารถทำได้”