“จีน” เปิดตัวเลขจีดีพี 2019 ที่ 6.1% โตอ่อนสุดในรอบ 29 ปี

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทางการ “จีน” ได้เปิดเผยตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ประจำปี 2019 ที่ขยายตัว 6.1% ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ แต่อัตราการเติบโตที่ชะลอตัวนี้นับเป็นสัญญาณความอ่อนแอทางเศรษฐกิจของจีนในรอบ 29 ปี

รายงานยังระบุด้วยว่า การขยายตัวของจีดีพีจีนในไตรมาส 4/2019 อยู่ที่ 6% มาจากการที่รัฐบาลจีนใช้มาตรการทางการเงินและการคลังในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อย่างการลดภาษี และการอนุญาตให้รัฐบาลท้องถิ่นจำหน่ายพันธบัตรจำนวนมากขึ้น เพื่อลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการปล่อยกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์ด้วย แต่หนี้พันธบัตรที่สูงและความต้องการภายในประเทศที่คงตัว รวมถึงผลกระทบจากสงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกาทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่สูงนัก โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนได้คาดการณ์ว่าจีดีพีในปี 2019 จะอยู่ที่ 6% -6.5%

อย่างไรก็ตาม การลงนามในข้อตกลงการค้าระยะที่ 1 ระหว่างสหรัฐและจีนเมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายมีความหวังว่าจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดทางเศรษฐกิจของจีนอย่างน้อยก็ระยะสั้น ๆ ได้ โดย “หลิว เหอ” รองนายกรัฐมนตรีของจีนกล่าวระหว่างการเดินทางไปเป็นตัวแทนของจีนในการลงนามข้อตกลงการค้าที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐว่า เขามองว่าเศรษฐกิจจีนยังคงสดใสและคาดว่าจะยิ่งดีขึ้นในปี 2020 และระบุว่า จีนจะลดการพึ่งพาพันธบัตรและหันไปมุ่งเน้นการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมมากขึ้น

ขณะที่ “รอยเตอร์ส” เปิดเผยรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจของจีนในเดือน ธ.ค. 2019 เพิ่มเติม แสดงให้เห็นถึงความเติบโตของภาคการผลิตและการลงทุน โดยผลผลิตของภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวเป็น 6.9% ซึ่งเป็นอัตราที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 9 เดือน ส่วนการลงทุนนิสนทรัพย์ถาวรตลอดปี 2019 เพิ่มขึ้นเป็น 5.4% ขณะที่ยอดค้าปลีกก็เพิ่มขึ้นเป็น 8.0% ในเดือน ธ.ค.


อย่างไรก็ตาม การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตลอดปี 2019 อยู่ที่ 9.9% ชะลอตัวลงเล็กน้อยจาก 10.2% ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2019 สาเหตุสำคัญมาจากทางการจีนยังคงลดการเก็งกำไร เพื่อให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ การสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์สพบว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนยังอาจจะลดลงอีกถึง 5.9% ในปี 2020