จีนผนึก “อาลีบาบา” นำร่อง ปั้น 3 เมืองไร้เงินสด

หลายประเทศทั่วโลกกำลังส่งเสริม “สังคมไร้เงินสด” (Cashless Society) ให้เข้ามาแทนที่พฤติกรรมการใช้เงินสดด้วยระบบการชำระเงินดิจิทัลที่ได้มาตรฐาน เที่ยงตรง และมีความปลอดภัยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมปัจจุบันที่กิจวัตรประจำวันถูกเชื่อมต่อกับ “โลกออนไลน์” มากขึ้นเรื่อย ๆ

ไชน่า มันนี่ เน็ตเวิร์ก รายงานว่า ความเคลื่อนไหวของ “แอนท์ ไฟแนนเชียล”บริษัทลูก อาลีบาบา โฮลดิ้ง ของ แจ็ก หม่าซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบจ่ายเงิน “อาลีเพย์” นับวันยิ่งมีบทบาทในโลกธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนจีนที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน

โดยเมื่อเดือน เม.ย. แอนท์ ไฟแนนเชียลได้จัดตั้งกลุ่ม “พันธมิตรไร้เงินสด” ขึ้นที่แรกในเมืองหางโจว โดยสามารถดึงความสนใจจาก 15 องค์กรธุรกิจ อาทิ คาร์ฟูร์ ไชน่า, สนามบินนานาชาติปักกิ่ง และไบก์ แชริ่ง สตาร์ตอัพ ปัจจุบันหางโจว กลายเป็นเมืองที่ใช้ระบบจ่ายเงินดิจิทัลเกือบ 100% โดยกว่า 95% ของซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าสะดวกซื้อ ยอมรับการใช้จ่ายเงินผ่าน “อาลีเพย์” เช่นเดียวกับบริการรถแท็กซี่ มากกว่า 98% ยอมรับการจ่ายเงินระบบออนไลน์แล้ว

นอกจากนี้ เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา “อู่ฮั่น” กลายเป็นเมืองที่ 2 ที่เข้าร่วมกับโครงการพัฒนา “สังคมไร้เงินสด” โดยปัจจุบันมีกลุ่มพันธมิตรเพิ่มกำลังมากขึ้น โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมทั้งหมด 28 องค์กร โดยนายกเทศบาลเมืองอู่ฮั่น กล่าวถึงแผนการที่ต้องการพัฒนา

อันดับแรก คือ การทำให้รถโดยสาร 5,000 คัน ยอมรับระบบจ่ายเงินผ่านอาลีเพย์ ซึ่งคาดว่าจะสำเร็จภายในเดือน ก.ค.นี้ รวมทั้งจะพัฒนาเครือข่ายการชำระเงินระบบดิจิทัลให้ครอบคลุมถึงบริการทั้งรถไฟ และเรือข้ามฟาก รวมถึงสถานที่รับฝากรถยนต์ทั่วเมืองอู่ฮั่น

โดยล่าสุด “เมืองฝูโจว” กลายเป็นเมืองที่ 3 ที่ได้ประกาศความร่วมมือกับ แอนท์ ไฟแนนเชียล เพื่อจะสร้างสิ่งแวดล้อมใหม่สู่สังคมปลอดเงินสด โดยคาดว่ากว่า 20 องค์กร อาทิ สำนักงานเทศบาลฝ่ายพาณิชย์ของเมืองฝูโจว, กรีนเพย์เมนต์การ์ด, บริษัทอิเล็กทริกพาวเวอร์ มณฑลฝูเจี้ยน และบริษัทนิวหัวดู ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เข้าร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อเพิ่มบทบาทในการพัฒนาโครงการสังคมปลอดเงินสดมากขึ้น

นายหาง ดง รองนายกเทศมนตรีของเมืองฝูโจว กล่าวว่า ตามเป้าหมายที่วางไว้ ทางเมืองฝูโจวตั้งใจจะพัฒนาเมืองให้เป็นสังคมที่มีความทันสมัย โดยคาดว่ากว่า 90% ของร้านค้าในเมืองฝูโจว จะดำเนินการโดยปราศจากเงินสดภายในสิ้นปีนี้ ปัจจุบันประมาณ 95% ของรถแท็กซี่ 85% ของซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าสะดวกซื้อ และ 80% ของร้านอาหารในเมืองฝูโจว ยอมรับการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนแล้ว โดยจากการสำรวจพบว่า กลุ่มเป้าหมายที่ใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์ ราว 80% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้บริโภคอายุราว 20-30 ปี

และตามแผน เมืองฝูโจวจะพัฒนาสังคมไร้เงินสดให้ครอบคลุมมากขึ้นใน 4 ด้าน ได้แก่ การขนส่ง, บริการเชิงพาณิชย์, บริการสาธารณะ และบริการภาครัฐ หมายความว่า ประชาชนจะสามารถเดินทางไปซื้อสินค้า ท่องเที่ยว แม้กระทั่งไปพบแพทย์ โดยมีเพียงสมาร์ทโฟนแค่เครื่องเดียวเท่านั้น

“หยวน ไลมิง” รองประธาน บริษัท แอนท์ ไฟแนนเชียล กล่าวในระหว่างการประชุมประจำเดือน พ.ค.ระบุว่า “ผมมีความเชื่อมั่นว่า ประเทศจีนจะก้าวสู่การเป็นสังคมปลอดเงินสด ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งแน่นอนว่าเมืองที่นำร่องไปก่อนแล้วจะได้เปรียบ เพราะท้ายที่สุด ทั้งประเทศจีนและหลายประเทศทั่วโลกก็จะใช้จ่ายเพียงแค่ถือสมาร์ทโฟนเท่านั้น”