
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาได้แถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาสหรัฐในวันที่ 4 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเน้นย้ำหลายประเด็น โดยเฉพาะความสำเร็จของนโยบายทางเศรษฐกิจที่ทำให้สหรัฐสามารถคืนสถานะความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นการแถลงนโยบายครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปีนี้
“ภายในเวลาเพียง 3 ปี เราได้ทำลายมายาคติเรื่องการเสื่อมถอยของอเมริกัน และเราได้ปฏิเสธชะตากรรมความตกต่ำของอเมริกา เรากำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่น่าเชื่อในระยะเวลาอันสั้น และเราจะไม่หันหลังกลับ
ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะรายงานให้คุณทราบในคืนนี้ว่า เศรษฐกิจของเราดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา กองทัพของเราถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างสมบูรณ์ พร้อมด้วยศักยภาพที่ไม่มีที่ใดในโลกเทียบได้หรือแม้แต่ใกล้เคียง พรมแดนของเราปลอดภัย ครอบครัวของเรากำลังรุ่งเรือง ค่านิยมของเราได้รับการส่งเสริม ความภาคภูมิใจของเราได้รับการฟื้นฟู และจากเหตุผลทั้งหมดนี้ ผมขอกล่าวกล่าวประชาชนของประเทศที่ยิ่งใหญ่ของเรา และสมาชิกสภาคองเกรสเบื้องหน้าผมนี้ว่า สถานะของประเทศของเราแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมา”
ทรัมป์ยังได้อ้างถึงความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน รวมถึงการบรรลุข้อตกลงสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ซึ่งนำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจของสหรัฐ
ทั้งนี้ การแถลงการณ์ดังกล่าวถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งในการหาเสียงของของทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือน พ.ย. นี้ โดยทรัมป์กล่าวด้วยว่า “วิสัยทัศน์ที่ผมจะแสดงให้เห็นในค่ำคืนนี้คือการสร้างสรรค์สังคมที่รุ่งเรืองและครอบคลุมความหลากหลายมากที่สุดในโลก เป็นที่ซึ่งทุกคนสามารถเข้าร่วมความสำเร็จที่ไม่มีใครเทียบได้ของอเมริกา และเป็นที่ซึ่งทุกกลุ่มคนสามารถมีส่วนร่วมในความเฟื่องฟูที่น่ามหัศจรรย์ของอเมริกา”
อย่างไรก็ตาม การแถลงนโยบายดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างที่กระบวนการพิจารณาถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีใกล้จะถึงจุดสิ้นสุด โดยวุฒิสภามีกำหนดจะลงมติในวันที่ 5 ก.พ. นี้ แต่คาดว่าวุฒิสภาที่พรรครีพับลิกันของทรัมป์ครองเสียงข้างมากอยู่ จะยังคงลงมติไม่เห็นชอบต่อการถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่ง หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติให้ถอดถอนก่อนหน้านี้
ความขัดแย้งระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่พรรคเดโมแครตฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากอยู่ในขณะนี้ ยังปรากฎให้เห็นอย่างชัดเจนในการแถลงนโยบายประจำปีครั้งนี้ จากภาพที่ทรัมป์ปฏิเสธในการจับมือทักทายกับนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ก่อนที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะลุกขึ้นฉีกเอกสารคำแถลงนโยบายของทรัมป์ทันทีที่เขากล่าวจบ