ซีเอ็นเอ็นรายงานสถานการณ์ฝนตกหนักใน “ออสเตรเลีย” โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลียระบุว่า สถานการณ์พายุฝนที่รุนแรงส่งผลให้ออสเตรเลียมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยที่ 200 มม.ในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา โดยในนครซิดนีย์มีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 391.6 มม. นับเป็นสถานการณ์ฝนตกที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1990 หรือในรอบ 30 ปี
ขณะที่ทางการของรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้เร่งอพยพผู้คนหลายร้อยคนและสั่งปิดโรงเรียนกว่า 50 แห่ง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อเหตุดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลัน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
อย่างไรก็ตาม บีบีซีรายงานว่า ฝนตกหนักได้ช่วยบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ไฟป่าที่ลุกลามต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน โดยหน่วยบริการไฟป่าของรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW Rural Fire Services) เปิดเผยว่า น้ำฝนได้ดับไฟป่ากว่า 30 จุด เหลืออีก 24 จุดที่ยังคงมีการลุกไหม้ทั่วทั้งรัฐ ซึ่งมีเพียง 4 จุดเท่านั้นที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมได้
ขณะที่นักดับเพลิงกว่า 800 นายได้ถูกนำตัวไปช่วยเหลือกู้ภัยในสถานการณ์พายุและน้ำท่วม โดยเหลือนักดับเพลิงอยู่เพียง 100 คนที่ยังคงทำหน้าที่ดับไฟป่า
Rain has significantly assisted reducing the fire activity across areas of NSW. It is a welcome relief for communities and firefighters alike. 26 bush and grass fires are still burning across the state with 4 not yet contained (Snowy Valley and Monaro areas). #nswrfs #nswfires pic.twitter.com/w3aUaPsuZw
— NSW RFS (@NSWRFS) February 10, 2020
ทั้งนี้ ได้มีไฟป่าขนาดใหญ่ 2 จุดที่ดับลงอย่างสนิทจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยไฟป่าทั้ง 2 แห่งได้เริ่มลุกไหม้มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019 และลุกลามกินพื้นที่เกือบ 5 แสนเฮกตาร์ ส่วนไฟป่าที่ยังลุกไหม้อยู่ส่วนมากอยู่ในพื้นที่หุบเขาสโนวีและเขตโมนาโรซึ่งห่างไกลพายุฝน
เจมส์ มอร์ริส โฆษกของหน่วยบริการไฟป่าระบุว่า “จากการคาดการณ์ เราน่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและดับไฟได้ เราหวังว่าภายในสัปดาห์นี้ เราจะไม่หลงเหลือไฟป่าที่ยังไม่สามารถควบคุมได้แม้แต่จุดเดียวทั่วทั้งรัฐนิวเซาท์เวลส์”