มาตรการสกัดกั้น “โควิด-19” ของ 24 ประเทศต่อไทย

Photo by Anusak Laowilas/NurPhoto via Getty Images

ท่ามการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ 2019 หรือ ไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยที่มากขึ้นและขณะนี้ประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ทำให้หลายประเทศออกมาตรการควบคุมและคัดกรองการเดินทางของชาวต่างชาติจากประเทศกลุ่มเสี่ยงไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด รวมถึงการเดินทางของนักเดินทางจากไทยด้วยเช่นกัน

สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ได้รายงานการออกมาตรการคัดกรองผู้เดินทางจากประเทศไทยมาตรการสกัดกั้นเพื่อไวรัสโควิด-19 ของประเทศต่าง ๆ ไว้ดังนี้

1. ประเทศอียิปต์ ออกประกาศผู้โดยสารที่เคยเดินทางมาไทยในช่วง 14 วันก่อนหน้า จะต้องให้ข้อมูลในเอกสารสุขภาพทั้งชื่อจริง ที่อยู่ สัญชาติ หมายเลขเที่ยวบิน เส้นทางบินทั้งหมด วันที่เดินทางมาถึง หมายเลขโทรศัพท์ โดยผู้โดยสารเหล่านี้จะถูกเฝ้าระวังโดยหน่วยงานกักกันโรคเป็นเวลา 14 วันหลังเดินทางถึงอิยิปต์

2.ประเทศอิรัก ออกประกาศผู้โดยสารที่อยู่ในประเทศไทยช่วง 14 วันก่อนหน้า ห้ามเดินทางเข้าประเทศ ขณะที่ผู้โดยสารซึ่งเดินทางมายังประเทศไทยหลังวันที่ 1 มกราคม 2563 ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศผ่านสนามบินเออร์บิลและสุเลย์มานิยาห์ ส่วนพลเมืองอิรักที่เดินทางมายังประเทศไทยช่วง 14 วันก่อนหน้า จะต้องถูกกักตัวเฝ้าระวังอาการ 14 วัน

3.ประเทศคูเวต ออกประกาศห้ามนักเดินทางจากประเทศไทยเดินทางเข้าประเทศ เช่นเดียวกับผู้โดยสารที่เดินทางมายังประเทศไทยช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้า ก็ห้ามเดินทางเข้าคูเวตเช่นกัน แต่มาตรการนี้ไม่ได้บังคับใช้กับพลเมืองคูเวต ขณะที่กองอำนวยการการบินพลเรือนคูเวต หรือ Directorate General of Civil Aviation (DGCA) ได้สั่งระงับเที่ยวบินทั้งหมดทั้งที่เดินทางมายังประเทศไทยและเดินทางออกจากประเทศไทย

รายงานเพิ่มเติมระบุว่า กระทรวงข้อมูลข่าวสาร คูเวตได้ประกาศว่าจะอพยพพลเมืองคูเวตเมื่อวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 รวมถึงแจ้งพลเมืองของตนว่าเที่ยวบินที่จะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ จะเดินทางออกในเวลา 11.30 น. ของวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563

4.ประเทศปารากวัย ออกประกาศเตือนระบุว่าผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศไทยจะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

5.ประเทศซาอุดีอาระเบีย ออกประกาศห้ามผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศไทยและถือวีซ่านักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศ

6.หมู่เกาะโซโลมอน เป็นประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ออกประกาศห้ามห้ามผู้โดยสารที่เดินทางเปลี่ยนเครื่องหรืออยู่ในประเทศไทยในช่วง 14 วันที่ผ่านมาเดินทางเข้าประเทศ

ก่อนหน้านี้ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล ประกาศมาตรการของประเทศต่าง ๆ ต่อประเทศไทย เพื่อสกัดกั้นและลดภาวะเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่หรือไวรัสโควิด-19 ทั้งหมด 17 ประเทศ ดังนี้

7.ประเทศอินเดีย กำหนดให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาจาก กรุงเทพฯ ประเทศสิงคโปร์ และประเทศฮ่องกง ต้องผ่านการตรวจด้วยเครื่องตรวจจับความร้อนในร่างกาย หรือ เทอร์โมสแกน (Thermoscan) และต้องกรอกแบบฟอร์มสาธารณสุขของอินเดีย

8.สหราชอาณาจักร กำหนดให้บุคคลที่เข้าคุณสมบัติด้านล่างทั้ง 2 ข้อ หลีกเลี่ยงการออกไปพบปะ ผู้คน และติดต่อระบบบริการสุขภาพ National Health Servcie (NHS) หรือแพทย์ ประจำตัว โดยคุณสมบัติดังกล่าว ได้แก่

8.1 เดินทางมาจากประเทศไทย ประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศฮ่องกง ประเทศไต้หวัน ประเทศสิงคโปร์ ประเทศมาเลเซีย และประเทศมาเก๊า ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา

8.2 พบว่ามีอาการไข้หวัด ไอ และหายใจติดขัด

9.ประเทศไต้หวัน ออกประกาศแจ้งเตือนระดับการระบาดของโรคในประเทศไทยเป็นระดับที่ 1 (Watch) โดยผู้ที่เดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวควรจะปฏิบัติตามมาตรการ ป้องกันทั่วไปของท้องที่

10.ประเทศอิสราเอล ขยายเงื่อนไขการคัดกรองผู้ที่เดินทางไปยังประเทศอิสราเอล ซึ่งรวมถึงผู้ที่เดินทางไป ประเทศไทย ประเทศจีน ประเทศฮ่องกง ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลีใต้ และประเทศมาเก๊า ใน 14 วันที่ผ่านมา อีกทั้งออกประกาศขอความร่วมมือให้ประชาชนพิจารณาความจำเป็น ในการเดินทางไปประเทศไทย  ประเทศฮ่องกง ประเทศสิงคโปร์ ประเทศมาเก๊า ประเทศเกาหลีใต้ และประเทศไต้หวัน ประกาศให้บุคคลทุกคนสัญชาติที่เดินทางกลับจาก ประเทศไทย ประเทศสิงคโปร์ ประเทศฮ่องกง และประเทศมาเก๊า ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน (Home Quarantine) เป็นเวลา 14 วันหลังจากเดินทางมาถึงประเทศอิสราเอล. – ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอิสราเอล – ประเทศไทย

อีกทั้งขอร้องให้ทางการไทยยุติการส่งแรงงานไปอิสราเอลจนกว่าจะมีการแจ้งใหม่ เนื่องจากกลัวว่าแรงงานไทยจะไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรการต้องกักตัวอยู่ที่บ้านของประเทศอิสราเอลได้

รวมถึงยังปฏิเสธการเข้าเมืองทั้งทางอากาศ ทางเรือและทางบกต่อบุคคลทุกสัญชาติที่เคยเดินทางไป ประเทศสิงคโปร์ ประเทศฮ่องกง และประเทศมาเก๊า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยกเว้นผู้ถือสัญชาติหรือมีถิ่นพำนักในอิสราเอล

Incheon International Airport , South Korea, :Photographer: SeongJoon Cho/Bloomberg via Getty Images

11.ประเทศเกาหลีใต้ แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางเยือน 6 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการแพร่ระบาดภายในท้องถิ่น ซึ่งประกอบด้วย ประเทศไทย ประเทศญี่ปุ่น ประเทศไต้หวัน ประเทศมาเลเซีย ประเทศเวียดนาม และประเทศสิงคโปร์ โดยให้ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมาก อาทิ ประเทศไทย ประเทศญี่ปุ่น ประเทศสิงคโปร์ ที่มีอาการไอหรือมีไข้ ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ด้วย จากเดิมทีบังคับใช้เฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากจีนเท่านั้น

13.ประเทศสเปน แนะนำให้ประชาชนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไทยตรวจสอบข้อมูลจาก กระทรวงสาธารณสุขสเปนก่อนการเดินทาง โดยในขณะนี้ยังไม่พบการออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวสำหรับการเดินทางมาประเทศไทยจากสาธารณสุขของประเทศสเปน

14.ประเทศบรูไน ออกประกาศแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงสูง (high risk) รวมถึงไทยเฉพาะในกรณีที่จำเป็น

In this picture taken a Malaysia Airlines : Photo by NICOLAS ASFOURI/AFP via Getty Images

15.ประเทศมาเลเซีย จัดทำแนวปฏิบัติด้านการสาธารณสุขให้นายจ้างที่มีลูกจ้างที่เดินทางกลับมาจากประเทศไทย ประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น ประเทศฮ่องกง และประเทศสิงคโปร์ เพื่อคุ้มครองสิทธิแรงงานของ ลูกจ้าง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

15.1 ให้ลูกจ้างเข้ารับการตรวจร่างกายโดยทันที โดยนายจ้างจะเป็น ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย

15.2 อนุญาตให้ลูกจ้างลาหยุดหรือลาป่วย รวมถึงอนุมัติการใช้สิทธิ ประโยชน์ด้านสุขภาพของบริษัทในช่วงการกักกันเฝ้าระวังโรค (Quarantine Period)

15.3 จ่ายค่าตอบแทนอื่น ๆ หากช่วงการกักกันเฝ้าระวังโรคเกินจำนวน สิทธิในการลาป่วย หรือสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพของบริษัท

15.4 จ่ายค่าตอบแทนแก่ลูกจ้างเต็มจำนวนในระหว่างช่วงการกักกันเฝ้า ระวังโรค

16.ประเทศโรมาเนีย ยกระดับคำเตือนการเดินทางไปประเทศไทย โดยรายงานว่า พื้นที่สุ่มเสี่ยง ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่

People wearing protective facemasks in Istanbul, Turkey, Photo by Onur Dogman/NurPhoto via Getty Images)

17.ประเทศตุรกี ยกระดับการตรวจ/คัดกรอง โดยให้มีการตรวจจับอุณหภูมิของร่ายกาย โดยกล้องถ่ายภาพความร้อน (Thermal Camera) ผู้โดยสารต่างประเทศทุกเที่ยวบิน จากเดิมที่ตรวจเฉพาะผู้ที่เดินทางจากประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น ประเทศไต้หวัน ประเทศฮ่องกง ประเทศลาว ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย

18.ประเทศนิการากัว สาธารณสุขมีมาตรการคัดกรองพิเศษสำหรับผู้ที่มีประวัติการเดินทางไปยัง ประเทศที่มีรายงานผู้ติดเชื้อ รวมทั้งประเทศไทย และผู้ที่ปรากฏอาการเกี่ยวกับทางเดินหายใจหรือมีไข้ โดยจะอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังเป็นเวลา 7 วัน

19.ประเทศรัสเซีย ส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าตรวจบนอากาศยานที่เดินทางเข้าประเทศก่อนอนุญาตให้ ผู้โดยสารลงจากเครื่อง ซึ่งรวมถึงเที่ยวบินจากประเทศไทยของบริษัทการบินไทยด้วย

20.ประเทศคาซัคสถาน ประกาศให้บุคคลที่เดินทางจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 มากกว่า 10 กรณี ต้องถูกกักบริเวณที่ในพักของตนเป็นเวลา 14 วัน โดยจะมีบุคลาการแพทย์มาตรวจอาการที่ที่พักเป็นประจำทุกวัน หลังจากนั้นจะต้องอยู่ในการควบคุมดูแลทางโทรศัพท์ของสถานพยาบาล ที่ใกล้ที่อยู่อาศัยอีก 10 วัน ประเทศดังกล่าวได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศมาเลเซีย ประเทศไทย ประเทศเกาหลีใต้. ประเทศเวียยดนาม ประเทศอิตาลี ประเทศเยอรมนี ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศฝรั่งเศส

pictured in the heart of the Bahraini capital Manama in Bahrain (Photo by Mazen Mahdi / AFP) (Photo by MAZEN MAHDI/AFP via Getty Images)

21.ประเทศบาห์เรน ประกาศห้ามคนต่างชาติที่เคยเดินทางจากประเทศไทยเดินทางเข้ามายังบาห์เรน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

21.1 ห้ามคนต่างชาติ (หมายถึงทุกสัญชาติ รวมทั้งคนไทย ที่ไม่มีถิ่นพำนัก/ ไม่มีวีซ่าทำงานในบาห์เรน) ที่เคยเดินทางไปยังประเทศไทย ประเทศอิหร่าน ประเทศสิงคโปร์ ประเทศมาเลเซีย และประเทศเกาหลีใต้ ภายใน 14 วันก่อนหน้า เดินทางเข้ามายังประเทศบาห์เรน

21.2 สำหรับผู้ที่มีถิ่นพำนักในบาห์เรน รวมถึงผู้ที่มีวีซ่านักลงทุน วีซ่าทำงาน วีซ่าครอบครัว และ วีซ่าการขอเข้าทำงาน (Flexi Work Permit) ไม่รวมวีซ่าท่องเที่ยว ที่เคยไปยังประเทศไทย ประเทศอิหร่าน ประเทศลาว ประเทศมาเลเซีย และประเทศเกาหลีใต้ ภายใน 14 วันก่อนหน้าจะต้องถูกกักตัว และได้รับการตรวจร่างกายตามกระบวนการที่ได้รับการ แนะนำจากองค์การอนามัยโลก

22.ประเทศคิริบาส ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO Sit Report) จำนวน 15 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ต้องอยู่ในประเทศที่ไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างน้อย 14 วัน ก่อนเดินทางเข้าประเทศคิรีบาส และขอความร่วมมือให้พลเมืองและผู้มีถิ่นพำนักหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศดังกล่าว

22.ประเทศกัวเตมาลา ออกมาตรการคัดกรองพิเศษ คือ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและ ตรวจสอบประวัติการเดินทางในหนังสือเดินทางอย่างละเอียด สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงประเทศไทยด้วย

A Tourist wearing a surgical mask is pictured next to Burj in Dubai The United Arab Emirates. (Photo by GIUSEPPE CACACE / AFP) (Photo by GIUSEPPE CACACE/AFP via Getty Images)

23.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศเตือนเฉพาะคนชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  ให้งดเว้นการเดินทางไปประเทศไทยและประเทศอิหร่าน (ไม่รวมชาวต่างชาติ)

Vietnam – file. Photo: Bac Pham/dpa (Photo by Bac Pham/picture alliance via Getty Images)

24.เวียดนาม วันที่ 17 มีนาคม 2563 มติชนรายงาน สถานกุงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ได้ออกประกาศว่า กระทรวงคมนาคมเวียดนามได้มีหนังสือแจ้งสายการบินต่างๆ เกี่ยวกับมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยได้ออกมาตรการกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน ต่อบุคคลทุกสัญชาติที่เดินทางมาจาก / แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน / หรือเคยพำนักอยู่ในประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศในช่วง 14 วันก่อนเดนทางมาถึงเวียดนาม โดยมาตรการนี้จะมีผล ณ ท่าอากาศยานนานาชาติทุกแห่งในเวียดนาม ตั้งแต่เวลา 00.00 น. ของวันที่ 18 มีนาคม 2563 จนกว่าจะมีประกาศฉบับใหม่

สถานกงสุลใหญ่ฯ ชี้แจงดังนี้

1.ชาวไทยที่จะเดินทางจากประเทศไทยมายังจังหวัดต่างๆ ของเวียดนามจะถูกกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน ณ สถานที่ที่ทางการเวียดนามจัดไว้

2.ชาวไทยในเขตกงสุลที่จะเดินทางจากเวียดนามกลับประเทศไทย โปรดพิจารณาแผนการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้ามายังเวียดนามอีกครั้ง

3.โปรดตรวจสอบกับสายการบินต่างๆ เกี่ยวกับสถานะเที่ยวบินและมาตรการของสายการบิน

4.โปรดติดตามข่าวสารจากสถานกงสุลใหญ่ฯ และจากทางการเวียดนามอย่างใกล้ชิด

ในกรณีฉุกเฉิน ท่านสามารถติดต่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ที่หมายเลข +84 36 633 2071

 

ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังต่างประเทศในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ควรตรวจสอบกับสถานทูตฯ ของประเทศปลายทางก่อนเดินทาง เพื่อรับทราบถึงมาตรการควบคุมโรคล่าสุดของประเทศนั้นๆ