นายกฯอังกฤษเตือน “โควิด-19” ระบาดหนักขึ้น เผยอาจ “กักตัว” ครอบครัวผู้ติดเชื้อทั้งหมด

“สหราชอาณาจักร” เป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีความตื่นตัวในการรับมือไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่หรือ “โควิด-19” ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในยุโรป ส่งผลให้หลายประเทศเริ่มใช้มาตรการขึ้นสูงสุดในการรับมือ ขณะที่นายกรัฐมนตรี “บอริส จอห์นสัน” ของอังกฤษได้ประกาศเตรียมพิจารณายกเลิกกิจกรรมสาธารณะ ทั้งหมดในประเทศ และอาจขอให้ครัวเรือนที่พบผู้ติดเชื้อกักตัวเองทั้งหมดหากสถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น

สำนักข่าวเดลี่ เอ็กซ์เพรสรายงานว่า นายบอริส จอห์นสันได้แถลงการณ์เกี่ยวกับมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ โดยระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์การระบาดในอังกฤษอยู่ขั้นตอนที่ 2 ซึ่งเป็นช่วงการชะลอการแพร่ระบาด (delay phase) โดยรัฐบาลอังกฤษกำลังพิจารณาใช้มาตรการปิดให้บริการสาธารณะต่าง ๆ รวมถึงการสนับสนุนให้ประชาชนทำงานที่บ้าน

ทั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษได้แบ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดออกเป็น 4 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนแรก “การจำกัด” (Contain) หมายถึง การดำเนินการรักษาผู้ป่วยรายแรกและการติดตามเฝ้าระวังผู้ใกล้ชิดทั้งหมด เพื่อยับยั้งการระบาด ขั้นตอนที่ 2 คือ “การชะลอ” (Delay) คือการชะลอการแพร่ระบาดในวงกว้างทั่วประเทศและดำเนินมาตรการลดผลกระทบ

ขั้นตอนที่ 3 คือ “การวิจัย” (Research) เพื่อทำความเข้าใจไวรัสและวิธีการรักษามากขึ้น และขั้นตอนสุดท้ายคือ “การบรรเทาผลกระทบ” (Mitigate) คือการเยียวยาผู้ป่วยให้ดีที่สุดด้วยบริการทางสังคมและบริการสาธารณะ รวมทั้งกระจายการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์อย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ขณะที่ข้อมูลจากหน่วยงานระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ของอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของอังกฤษอยู่ที่ 1,140 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 21 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพ (ข้อมูลวันที่ 14 มีนาคม)

นายจอห์นสันกล่าวว่า “เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า โคโรน่าไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่กระจายไปทั่วโลก และจะระบาดครั้งใหญ่ในประเทศของเราในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งเราได้ดำเนินการทุกสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อควบคุมและชะลอการระบาดของโรคนี้ แต่ขณะนี้มันได้กลายเป็นการแพร่ระบาดระดับโลกแล้ว”

“จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจริง ๆ อาจมีสูงมากกว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เราได้รับการยืนยันจากการตรวจทางการแพทย์” นายจอห์นสันกล่าวพร้อมทั้งระบุว่า มาตรการของรัฐบาลคือการส่งเสริมให้ NHS สามารถดำเนินงานได้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดการกับโรคระบาด โดยเฉพาะการปกป้องผู้สูงอายุและผู้อ่อนแอ

นายกฯอังกฤษยังแนะนำให้ผู้ที่แสดงอาการป่วยโควิด-19 ควรกักตัวเองที่บ้านอย่างน้อย 7 วัน พร้อมทั้งระบุว่า “ถึงจุดหนึ่งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หากมีสมาชิกในครัวเรือนใดแสดงอาการป่วย เราอาจขอให้สมาชิกทั้งหมดในครัวเรือนกักตนเองที่บ้าน”

ซึ่งรัฐบาลอังกฤษกำลังพิจารณายกเลิกกิจกรรมสาธารณะที่มีการรวมตัวของผู้คนจำนวนมากอย่าง การแข่งขันกีฬาต่าง ๆ ด้วย ส่วนโรงเรียนต่าง ๆ แม้ว่ายังไม่มีการแนะนำให้ปิดการเรียนการสอน แต่รัฐบาลยังคงจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติ

ทั้งนี้ นายจอห์นสันยอมรับว่า มาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลดำเนินการอยู่จะทำให้การหยุดชะงักในประเทศเป็นเวลาหลายเดือน และกล่าวว่า “เราทุกคนต้องยอมรับว่านี่เป็นวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขที่เลวร้ายที่สุดสำหรับคนรุ่นเรา บางคนบอกว่า มันเป็นเพียงไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ซึ่งนั่นไม่ถูกต้อง เพราะโรคนี้อันตรายกว่ามาก หากไม่มีภูมิต้านทานที่ดี”

“มันจะแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง และผมต้องพูดความจริงกับคุณ ผมต้องพูดความจริงกับชาวอังกฤษทั้งหมดว่า จะมีอีกหลายครอบครัวที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักก่อนเวลาอันควร” นายจอห์นสันกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายกฯอังกฤษระบุว่า การที่โควิด-19 ได้รับการยกระดับเป็นการแพร่ระบาดระดับโลกโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ควรยอมแพ้ และยกเลิกมาตรการกักกันโรค แล้วหันไปใช้มาตรการบรรเทาผลกระทบแทน “นั่นเป็นความคิดที่ผิดและเป็นอันตราย ในทางตรงข้ามเราต้องเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่า เพราะนี่เป็นโรคระบาดที่สามารถควบคุมได้”