“เอดีบี” ชี้ไวรัสกระทบหนัก “ตลาดพันธบัตร” เอเชียตะวันออก

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผย “รายงานการติดตามตลาดพันธบัตรเอเชีย” (Asia Bond Monitor) ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือ โควิด-19 และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่ผ่านมา กำลังส่งผลกระทบต่อตลาดพันธบัตรสกุลเงินของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกอย่างรุนแรง

นายยาซูยูกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบีระบุว่า “ตลาดการเงินในภูมิภาคกำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่รระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้การลงทุนจากต่างประเทศและกิจกรรมในภาคธุรกิจลดลง รวมถึงปัญหาสงครามการค้าก่อนหน้านี้ แต่ความพยายามรับมือกับผลกระทบเชิงลบจากโรคระบาด ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการทางการเงิน เพื่อช่วยเหลือธุรกิจและตลาดการเงินควรดำเนินต่อไป”

ทั้งนี้ ตลาดการเงินในประเทศเอเชียตะวันออกที่ได้รับผลกระทบได้แก่ จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในประเทศเศรษฐกิจหลักและเศรษฐกิจยูโรโซนก็ยังปรับตัวลดลงด้วย ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2019 – 29 กุมภาพันธ์ 2020

สาเหตุเกิดจากนักลงทุนหันไปเลือกลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ และกิจกรรมของภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศที่ลดลง จากการแพร่ระบาดของไวรัสทั่วโลก ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคขาดทุน และสกุลเงินท้องถิ่นอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ ธนาคารกลางของหลายประเทศในเอเชียตะวันออกไม่ว่าจะเป็น จีน ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลี มาเลเซีย ฮ่องกง และเวียดนาม ต่างปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ เช่นเดียวกันกับธนาคารกลางสหรัฐที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 2 ครั้งโดยในเดือนมีนาคมที่ผ่าน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยลดลงเกือบเป็นศูนย์

รายงานของเอดีบีนี้ยังเปิดเผยข้อมูลตลาดพันธบัตรในภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยในเดือนธันวาคม 2019 พันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นมีมูลค่าทั้งสิ้น 16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.4% จากเดือนกันยายน 2019 ขณะที่การออกพันธบัตรในภูมิภาคมีมูลค่าอยู่ที่ 1.44 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 4/2019 ลดลง 9.5% จากเดือนกันยายนปีเดียวกัน

ส่วนพันธบัตรรัฐบาลมีมูลค่าทั้งสิ้น 9.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนธันวาคม 2019 เพิ่มขึ้น 1.7% จากเดือนกันยายนปีเดียวกัน ขณะที่หุ้นกู้ของบริษัทต่าง ๆ ก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 6.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 3.5% จากเดือนกันยายน 2019 โดยที่ตลาดตราสารหนี้สกุลเงินท้องถิ่นของจีนยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยคิดสัดส่วนเป็น 75.4% ของยอดรวมในภูมิภาค