นักเศรษฐศาสตร์คาด วิกฤตไวรัสดันยอดผู้ว่างงานสหรัฐพุ่ง 1-4 ล้านคน

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้ว่างงานในประเทศระหว่างวันที่ 15-21 มี.ค. ที่ผ่านมา อาจพุ่งสูงถึง 1 ล้าน – 4 ล้านราย เป็นผลมาจากมาตรการ “ล็อกดาวน์” เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายรัฐ ที่ส่งผลให้ภาคธุรกิจเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวเป็นจริง จะเป็นตัวเลขผู้ว่างงานของสหรัฐที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 1982 ที่บันทึกไว้ที่ระดับ 695,000 ราย

นายสตีเฟน แกลลาเกอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากนิวยอร์ก ระบุว่า มาตรการล็อกดาวน์ที่เพิ่งบังคับใช้ในหลายรัฐของสหรัฐ กำลังส่งผลให้เกิดการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก ดังนั้นเราจึงเห็นจำนวนแรงงานผู้ยื่นขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์เพิ่มขึ้น ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งในปัจจุบันมีอย่างน้อย 18 รัฐที่ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ส่งผลผลกระทบต่อแรงงานราว 50% ของจำนวนแรงงานทั้งประเทศ

ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวมาจากผลสำรวจความเห็นและการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์หลายราย ที่มองว่าตัวเลขแรงงานสหรัฐที่ยื่นขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์จะเพิ่มสูงขึ้น โดยตัวเลขอย่างเป็นทางการที่จะประกาศในวันนี้ (26 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นดัชนีชี้วัดภาวะว่างงานในตลาดแรงงานที่สำคัญ และยังเป็นดัชนีชี้วัดถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอีกด้วย