สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกการจำกัดการส่งออกยารักษาโรค สารตั้งต้นสำหรับผลิตยา และเวชภัณฑ์รวม 24 ชนิด ที่ได้บังคับใช้มาตั้งแต่เดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เนื่องจากอินเดียเป็นผู้ส่งออกยารักษาโรครายใหญ่ของโลก
ทั้งนี้ รายงานระบุว่ายังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ารัฐบาลอินเดียยกเลิกการจำกัดการส่งออกยารักษาโรคเพราะเหตุใด แต่แหล่งข่าวของรอยเตอร์สระบุว่า การยกเลิกการจำกัดครั้งนี้เป็นผลมาจากแรงกดดันของสหรัฐอเมริกา หลังจากนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ของอินเดียได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันเสาร์ (4 เม.ย.) ที่ผ่านมา
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
โดยประธานาธิบดีทรัมป์ได้เรียกร้องให้อินเดียเร่งส่งออกยารักษาโรคมาลาเลีย ไฮดร็อกซีคลอโรควิน ที่มีความเป็นไปได้ในการรักษาเยียวยาผู้ป่วยโควิด-19
นายจัดด์ เดียร์ โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยว่า “ผู้นำทั้งสองคนได้หารือกันถึงประเด็นเรื่องห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกของยารักษาโรคและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น เพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่าจะยังคงสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในช่วงที่วิกฤตสุขภาพทั่วโลกนี้”
ทั้งนี้ การยกเลิกการจำกัดการส่งออกยารักษาโรคของอินเดียจะประกอบด้วยยาหลายชนิดเช่น ยาปฏิชีวนะทินิดาโซลและอิริโทรมัยซิน ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และวิตามินบี 12 แต่รัฐบาลอินเดียจะยังคงจำกัดการส่งออกยาแก้ปวดพาราเซตามอลและสูตรในการผลิตตัวยาดังกล่าวต่อไป
นอกจากนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดียยังได้จำกัดการส่งออกชุดตรวจหาเชื้อไวรัส เครื่องช่วยหายใจ หน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ป้องกันเชื้อสำหรับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ด้วย