เช้านี้หลายคนเปิดโทรศัพท์มือถือมาเช็กข่าวแล้วอาจตกใจเล็กน้อย เมื่อเจอหลายสื่อพาดหัวข่าวชวนตกใจ “ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ติดลบครั้งแรกในประวัติศาสตร์”
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ร่วงหนักขนาดนี้ ส่งผลต่อเราๆ ที่ใช้รถใช้ถนนกันอย่างไร ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน “การซื้อขายในตลาดล่วงหน้า” (Oil Future Market) ซึ่งเป็นการซื้อขายสัญญากระดาษ ที่ใช้น้ำมันดิบเป็นสินทรัพย์อ้างอิง
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 16 เมษายน 2567
- หวยงวด 16 เมษายน ถ่ายทอดสด ตรวจผลรางวัล ผลสลากกินแบ่งฯ วันนี้ (16 เม.ย. 67)
แน่นอนว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับ “นักลงทุน” มากกว่า
เมื่อวันที่ 20 เมษายน ตามเวลาสหรัฐฯ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือนพฤษภาคม ร่วงลง 55.90 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 306% ปิดที่ -37.63 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
หมายความว่า หากเราซื้อน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในขณะนั้น เราจะได้ทั้งน้ำมัน 1 บาร์เรล และ เงินฟรี ๆ อีก 37.63 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,222.22 บาท)
ส่วนสาเหตุที่ราคาน้ำมันปรับลดลงมโหฬารขนาดนั้น เกิดจากปัจจัยหลายข้อ ทั้งปริมาณน้ำมันล้นตลาด เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯ ลดลง ประมาณ 20-30% จากวิกฤตโควิด-19 และ สหรัฐฯ ไม่มีถังเก็บน้ำมันเพียงพอ
ประกอบกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า WTI ที่กำหนดส่งมอบในเดือนพฤษภาคม จะหมดอายุลงในวันที่ 21 เม.ย.(วันนี้) นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการรับส่งมอบน้ำมันจริง เพราะคงไม่มีใครมีคลังเก็บน้ำมันอยู่ในสวนหลังบ้าน ครั้นจะเอามาใช้เติมรถยนต์ก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นน้ำมันดิบ จึงเกิดแรงเทขายอย่างหนัก ทำให้ราคาซื้อขายล่วงหน้าเดือน พ.ค.ลดลง จนติดลบ
อย่างไรก็ตาม “มนูญ ศิริวรรณ” ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน มองว่า สถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะต่อมาในช่วงเช้า ราคาน้ำมัน WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ก็เคลื่อนไหวเหนือระดับ 20 เหรียญสหรัฐฯ / บาร์เรลอีกครั้ง
ขณะที่ราคาน้ำมันขายปลีกของไทย ต้องรอดูทิศทางราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ที่จะปิดตลาดในช่วงเย็นวันนี้ (21 เม.ย) ว่าจะสะท้อนราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับลดลงอย่างไร แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีผลมากนัก