รัฐบาลเยอรมันเตรียมถือหุ้น “ลุฟท์ฮันซ่า” อุ้มสายการบินฝ่าวิกฤตโควิด-19

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลเยอรมนีเตรียมเข้าถือหุ้นในบริษัทดอยทช์ ลุฟท์ฮันซ่า เอจี ผู้ให้บริการสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการช่วยเหลือมูลค่าหลายล้านยูโร เพื่อให้บริษัทสามารถผ่านพ้นวิกฤตจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปได้

โดยแหล่งข่าวของบลูมเบิร์กระบุว่าจะมีการตัดสินใจเรื่องดังกล่าวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งมาตรการช่วยเหลือทั้งหมดคาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่า 2 เท่าของมูลค่าการตลาดของบริษัทราว 4,000 ล้านยูโรในปัจจุบัน แต่ลุฟท์ฮันซ่ายังคงไม่แสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าว ส่วนเจ้าหน้าที่ของทางการเยอรมนีเปิดเผยว่ายังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาส่วนได้ส่วนเสีย และขอบเขตของการมีส่วนร่วมของภาครัฐในการบริหารสายการบิน

ขณะที่เว็บไซต์บิสซิเนส อินไซเดอร์รายงานว่า ลุฟท์ฮันซ่าเตรียมรับความช่วยเหลือมูลค่า 9,000 ล้านยูโรจากรัฐบาลเยอรมนี ซึ่งจะส่งผลให้รัฐบาลเข้ามามีบทบาทในบริษัท โดยมีที่นั่งในคณะกรรมการกำกับดูแลและสามารถคัดค้านการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ของสายการบินได้ ซึ่งคาดว่าสายการบินและรัฐบาลเยอรมนีจะสามารถบรรลุการเจรจาได้ในวันที่ 5 พ.ค.นี้ การช่วยเหลือของรัฐบาลครั้งนี้ส่งผลให้ราคาหุ้นของสายการบินเพิ่มสูงขึ้นราว 12%

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเยอรมนีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลได้หาถกเถียงอย่างดุเดือดในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อหาวิธีการช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบินที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากมาตรการปิดกั้นการเดินทางทั่วโลก โดยเฉพาะลุฟท์ฮันซ่าที่มีประมาณการว่ามีความสูญเสีย 1 ล้านยูโร/ชั่วโมง ซึ่งนายคาร์สเตน ชปอร์ ซีอีโอของลุฟท์ฮันซ่าระบุว่า สายการบินกำลังจะประสบปัญหาสภาพคล่องอีกภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้และต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาล

นายปีเตอร์ อัลท์เมเออร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมันจาก พรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (ซีดียู) ต้องการให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือสายการบินอย่างเงียบ ๆ โดยการปล่อยเงินกู้และการมีส่วนร่วม “บริษัทอย่างลุฟท์ฮันซ่าควรมีโอกาสที่จะกลับไปมีกำไรและสามารถยืนได้ด้วยขาของตนเอง”

ขณะที่ พรรคประชาธิปไตยสังคมแห่งเยอรมนี (เอสพีดี) เรียกร้องให้รัฐบาลเข้าควบคุมการทำงานของบริษัทแบบวันต่อวัน โดยแลกกับเม็ดเงินช่วยเหลือหลายพันล้านยูโร แต่พรรคซีดียูของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลยืนยันว่า ต้องการให้รัฐบาลถือหุ้นของบริษัทต่ำกว่า 25% เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้สายการบินกลายเป็นผลประโยชน์ทางการเมืองมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม การเตรียมเข้าอุ้มสายการบินลุฟท์ฮันซ่าของรัฐบาลเยอรมนีครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์เปิดเผยว่าจะมีการให้ความช่วยเหลือผ่านเงินกู้มูลค่า 11,000 ล้านยูโร ให้กับแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม สายการบินคู่แข่งของลุฟท์ฮันซ่า ซึ่งทั้งสองสายการบินเป็นผู้ให้บริการที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคและรัฐบาลต่างมองว่าทั้งสองสายการบินมีความสำคัญทางเศรษฐกิจเกินกว่าจะปล่อยให้ล้มละลายได้

ซึ่งการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบินของทั้งรัฐบาลฝรั่งเศสและเยอรมนี เกิดขึ้นหลังจากที่ สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ย้ำเตือนว่า วิกฤตโรคระบาดครั้งนี้กำลังจะทำให้สายการบินล้มละลายราวครึ่งหนึ่งของสายการบินทั่วโลก โดยประมาณการว่าสายการบินในยุโรปจะได้รับความเสียหายสูงถึง 89,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ซึ่งลุฟท์ฮันซ่าเองยังมีสายการบินท้องถิ่นในออสเตรีย เบลเยียม และสวิตเซอร์แลนด์ด้วย ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในข่ายของการได้รับความช่วยเหลือเช่นเดียวกัน