ซาอุฯประกาศขึ้นภาษี VAT 15% รัดเข็มขัดรัฐบาล หลังรายได้จากน้ำมันลดฮวบ

REUTERS/Ahmed Yosri

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า “ซาอุดีอาระเบีย” ประกาศปรับอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า จากเดิมที่ระดับ 5% เป็น 15% โดยจะมีผลในวันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป ถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรัดเข็มขัด เพื่อพยุงฐานะทางการเงินของรัฐบาลและลดค่าใช้จ่ายภาครัฐ ในการรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลให้น้ำมันดิบมีราคาลดลง ทำให้รายได้ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียลดลงไปด้วย

ทั้งนี้ รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้กำหนดอัตราภาษี VAT ครั้งแรกในปี 2018 โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของหารายได้รัฐบาลด้วยการลดการพึ่งพาน้ำมันเพียงอย่างเดียว แต่ความต้องการและราคาน้ำมันทั่วโลกที่ลดลงจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้รายได้ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียลดลงอย่างมาก ส่งผลให้เกิดความพยายามในการใช้มาตรการรัดเข็มขัดในคครั้งนี้

นอกจากนี้ รัฐบาลซาอุดีอาระเบียยังประกาศระงับการจ่ายเงินอุดหนุนค่าครองชีพให้กับพนักงานของรัฐราว 1.5 ล้านราย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เป็นต้นไป ซึ่งค่าครองชีพดังกล่าวเป็นเงินที่รัฐบาลจ่ายให้พนักงานภาครัฐรายละ 1,000 ริยัล/เดือน มาตั้งแต่ปี 2018 เพื่อชดเชยให้กับพนักงานของรัฐ หลังจากที่รัฐบาลประกาศใช้ภาษี VAT รวมถึงสถานกาณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในเวลานั้นด้วย

นายโมฮัมเหม็ด อัล-จาดาอัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของซาอุดีอาระเบีย ออกแถลงการณ์ระบุว่า “มาตรการเหล่านี้อาจสร้างความยากลำบาก แต่ก็มีความจำเป็นเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินและทางเศรษฐกิจในระยะกลางถึงระยะยาว และเพื่อเอาชนะวิกฤติโคโรน่าไวรัสที่ไม่เคยมีมาก่อนครั้งนี้ ให้เกิดความเสียหายที่น้อยที่สุด”

ทั้งนี้ รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้ใช้จ่ายงบประมาณแบบขาดดุลไปถึง 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงไตรมาส 1/2020 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศ ส่งผลให้รายได้จากน้ำมันในไตรมาสนี้ลดลงเกือบ 25% จากปี 2019 สู่ระดับ 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำให้รายรับรวมของรัฐบาลซอุดีอาระเบียลดลงราว 22%

ขณะที่ธนาคารกลางซาอุดีอาระเบียเปิดเผยด้วยว่า เงินทุนสำรองระหว่างประเทศในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ลดลงในอัตราเร็วที่สุดในรอบ 20 ปีและแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2011