สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นครนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกาได้ออกข้อกำหนดจำกัดอัตราการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นจากร้านอาหารของผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นสั่งอาหารออนไลน์ในเมือง โดยระบุให้จัดเก็บได้ไม่เกิน 20% ของค่าใช้ในการสั่งซื้อ แต่จะบังคับใช้เฉพาะในช่วงที่มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งส่งผลให้ร้านอาหารในเมืองไม่สามารถเปิดให้บริการได้
การจำกัดอัตราค่าคอมมิชชั่นในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ทางการนครนิวยอร์กได้รับคำร้องเรียนจากร้านอาหารจำนวนมาก ในเรื่องการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มที่เพิ่มสูงขึ้น ในช่วงการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ โดยก่อนหน้านี้ หลายเมืองของสหรัฐอย่างเช่น ซานฟรานซิสโก วอชิงตัน และซีแอตเทิล ก็มีการออกกฎควบคุมผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นด้วยเช่นกัน
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค. 2567
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม Grubhub เจ้าของแพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่นสั่งอาหารออนไลน์เตือนว่า การออกกฎเช่นนี้จะเป็นการสร้างภาระให้กับลูกค้าที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในส่วนดังกล่าวแทนร้านอาหาร และอาจส่งกระทบต่อพนักงานสั่งอาหาร หากยอดการสั่งซื้ออาหารลดลง โดยบริษัทยังระบุด้วยว่าข้อกำหนดดังกล่าวเป็นการก้าวล่วงของหน่วยงานท้องถิ่น
ปัจจุบัน มีผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นสั่งอาหารหลายรายที่มียอดใช้บริการมากขึ้น อย่าง Grubhub, Doordash และ UberEats โดยผู้ให้บริการแต่ละรายต่างเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นจากร้านอาหารในอัตราที่แตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่เรียกเก็บมากกว่า 30% ต่อคำส่งซื้อ