ทรัมป์ขู่อีก! ตัดงบถาวร หาก WHO ไม่ปรับปรุงตัวใน 30 วัน

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาประกาศขู่ยุติการให้เงินสนับสนุน “องค์การอนามัยโลก” (WHO) เป็นการถาวร หากองค์การอนามัยโลกไม่แสดงความมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงองค์กรให้ดีขึ้นภายใน 30 วัน รวมถึงจะทบทวนสมาชิกภาพและบทบาทของสหรัฐในองค์การอนามัยโลกอีกด้วย

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ระบุว่า “หากองค์การอนามัยโลกไม่ยอมรับการปรับปรุงองค์กรภายใน 30 วันนับจากนี้ ผมจะยุติการให้เงินสนับสนุนของสหรัฐเป็นการถาวร รวมทั้งทบทวนสมาชิกภาพของเราด้วย”

โดยก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้เคยระบุว่า องค์การอนามัยโลก “ปฏิบัติได้อย่างน่าเศร้าใจ” ในการจัดการและการรับมือกับไวรัส และเขาจะพิจารณาเกี่ยวกับเงินทุนสนับสนุนที่รัฐบาลสหรัฐมอบให้องค์การอนามัยโลกเร็ว ๆ นี้

ซึ่งในจดหมายที่ส่งตรงถึงผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกระบุว่า ทางเดียวที่องค์การอนามัยโลกยังคงจะได้รับเม็ดเงินสนับสนุนจากสหรัฐ คือ การแสดงให้เห็นถึงความเป็นอิสระในการดำเนินงานจากรัฐบาลจีน โดยประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า เขาจะเริ่มการเจรจากับ ดร.ทีโดรสเพื่อปฏิรูปองค์การอนามัยโลก

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐเป็นผู้ให้เงินสนับสนุนองค์การอนามัยโลกราว 15% ของงบประมาณทั้งหมด ซึ่งในปี 2019สหรัฐได้มอบเงินให้องค์การอนามัยโลกมากกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐก็ได้มอบเงินสนับสนุนองค์กรดังกล่าวไปแล้ว 58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ในเดือน เม.ย. 2020 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศระงับการมอบเงินบริจาคให้กับองค์การอนามัยโลก ด้วยเหตุผลว่า องค์กรดังกล่าวมีส่วนร่วมกับรัฐบาลจีนในการปกปิดและบิดเบือนข้อมูล เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศจีน แม้ว่าเจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกจะปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และทางการจีนก็ได้ยืนยันว่าการดำเนินการภายในประเทศมีความโปร่งใส


นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกยังระบุว่า จะเริ่มทำการตรวจสอบมาตรการรับมือโรคระบาดของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกโดยเร็วที่สุดและอย่างเป็นอิสระ แต่การดำเนินการดังกล่าวจะได้รับเงินทุนสนับสนุนจำนวนมากจากจีน ในฐานะประเทศจุดกำเนิดของการแพร่ระบาดครั้งนี้