สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า วุฒิสภาแห่งสหรัฐอเมริกาได้มีมติผ่านร่างกฎหมาย ปิดกั้นไม่ให้บริษัทบางแห่งของจีนขายหุ้นในตลาดหุ้นของสหรัฐ หากไม่บริษัทเหล่านั้นไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานการตรวจสอบและกฎระเบียบทางการเงินต่าง ๆ ของสหรัฐได้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนเพิ่มสูงขึ้น โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเจ้าหน้าที่ทางการของสหรัฐได้กล่าวโทษจีนว่า ผิดพลาดในการบริหารจัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระยะแรก ส่งผลให้ไวรัสกระจายตัวไปทั่วโลก และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
นอกจากนี้ยังเกิดเรื่องอื้อฉาวจากกรณีบริษัทลัคกิ้นคอฟฟี่ เชนร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่งจดทะเบียนในสหรัฐในปี 2019 เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการตรวจสอบภายในพบว่า ยอดขายในไตรมาส 2/2019 – 4/2019 ประมาณ 310 ล้านดอลลาร์สหรัฐถูกแต่งเติมขึ้นเพื่อปลอมยอดขาย โดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 40% ของยอดขายต่อปีโดยประมาณ ซึ่งลัคกิ้นได้ปลดซีอีโอและซีเอฟโอ รวมถึงปลดพนักงานอีก 6 คนที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนรู้เห็นกับกรณีนี้ด้วย เพื่อรับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าว
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายให้บริษัทต่างชาติที่มีการซื้อขายสาธารณะในตลาดหุ้นของสหรัฐต้องเปิดเผยว่า บริษัทของตนเองถูกควบคุมหรือเป็นเจ้าของโดยรัฐบาลต่างประเทศหรือไม่ แม้ว่าจะบังคับใช้บริษัทต่างชาติทุกแห่ง แต่กฎหมายนี้มีเป้าหมายที่บริษัทของจีน อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวยังจะต้องผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่จะส่งไปลงนามโดยประธานาธิบดีทรัมป์จึงจะมีผลบังคับใช้