รัฐบาลเยอรมันอัด 9 พันล้านยูโร อุ้ม “ลุฟท์ฮันซ่า” รักษาสภาพคล่อง

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า “ลุฟท์ฮันซ่า” กลุ่มสายการบินรายใหญ่ของเยอรมนีได้บรรลุข้อตกลงรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเยอรมนี มูลค่า 9,000 ล้านยูโร โดยรัฐบาลจะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 20% ของกลุ่มสายการบินของบริษัทในเยอรมนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ และเบลเยียม รวมทั้งได้ที่นั่งในคณะกรรมการกำกับดูแล 2 ที่นั่งด้วย

แถลงการณ์ของลุฟท์ฮันซ่าระบุว่า รัฐบาลเยอรมนีจะให้ความช่วยเหลือบริษัทผ่าน “มาตรการรักษาเสถียรภาพ” (stabilization package) ภายใต้กองทุนฟื้นฟูเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารของลุฟท์ฮันซ่า

ทั้งนี้ มาตรการช่วยเหลือดังกล่าวจะแบ่งออกเป็นเม็ดเงินอัดฉีดจากรัฐบาลรวม 5,700 ล้านยูโร โดยรัฐบาลจะได้รับผลตอบแทนเริ่มต้นที่ 4% ก่อนที่จะเพิ่มสูงขึ้นในปีต่อ ๆ ไป นอกจากนี้ยังจะมีความช่วยเหลือในส่วนของสินเชื่อระยะเวลา 3 ปี มูลค่ารวม 3,000 ล้านยูโร โดยส่วนใหญ่มาจากธนาคาร KfW ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาสัญชาติเยอรมัน

ส่วนการเข้าถือหุ้นในกลุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่า รัฐบาลเยอรมนีจะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 20% ในราคา 2.56 ยูโรต่อหุ้น รวมทั้งสิ้นประมาณ 300 ล้านยูโร ซึ่งรัฐบาลสามารถเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นขึ้นเป็น 25% เพื่อป้องกันการเข้ายึดกิจการจากนักลงทุนรายอื่น อย่างไรก็ดี รัฐบาลเยอรมนีตกลงจะขายหุ้นทั้งหมดภายในปี 2023

แถลงการณ์ของรัฐบาลเยอรมนีระบุว่า “ก่อนเกิดสถานการณ์โรคระบาด บริษัทมีเสถียรภาพและมีความสามารถในการทำกำไร รวมถึงมองเห็นโอกาสในการเติบโตได้ในอนาคต แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับเหตุไม่คาดฝันจากวิกฤตการณ์โคโรน่าในขณะนี้ มาตรการรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลนี้ได้กระทำขึ้นโดยคำนึงถึงความต้องการของบริษัท ขณะเดียวกันก็คำนึงถึงความต้องการของประชาชนผู้เสียภาษี รวมถึงพนักงานของกลุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่าด้วย”


ทั้งนี้ สายการบินลุฟท์ฮันซ่าประสบภาวะขาดทุนในไตรมาส 1/2020 ถึง 1,200 ล้านยูโร เนื่องจากความต้องการโดยสารเครื่องบินลดลงทันทีจากภาวะโรคระบาด และคาดว่าจะยังคงต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าการเดินทางทั่วโลกจะกลับสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้บริษัทตัดสินใจยุติกิจการสายการบินต้นทุนต่ำของตนเอง Germanwings รวมทั้งประกาศเตรียมปรับลดพนักงานลงถึง 10,000 ตำแหน่ง