สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานอ้างประกาศจากรัฐบาลสิงคโปร์ ในวันนี้ (26 พ.ค 2020) ระบุว่ารัฐบาลเตรียมอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นอีกราว 23,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งนับว่าเป็นมาตรการกระตุ้นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19
โดย “เฮ็ง สวี คีต” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า การอัดฉีดเม็ดเงินจากรัฐบาลจำนวนมากเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อรับมือกับวิกฤตที่สาหัสในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยหากรวมแผนกระตุ้นครั้งนี้พบว่าสิงคโปร์ได้อัดฉีดเงินแล้วกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 20% ของจีดีพี
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- KNLA ถอนกำลังจากเมียวดี ไปโจมตีทหารเมียนมากองพล 55 ผู้ลี้ภัยข้ามฝั่งกลับแล้ว
ในส่วนของรายละเอียดของมาตรการเบื้องต้น ประกอบด้วย การช่วยเหลือค่าจ้างพนักงานกับธุรกิจที่ยังคงไม่สามารถกลับมาดำเนินการได้หลังรัฐบาลเริ่มคลายการล็อคดาวน์, การยกเว้นค่าเช่าแก่ธุรกิเอสเอ็มอี, การคืนเงินภาษีแรงงานต่างชาติในบางอุตสาหกรรม เป็นต้น
จากการกระตุ้นเศรษฐกิจคาดว่าจะส่งผลให้สิงคโปร์มีงบประมาณขาดดุล 52,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 15.4% ของจีดีพี นอกจากนี้รายงานยังระบุอีกว่าสิงคโปร์จะใช้ทุนสำรองของประเทศที่คาดว่ามีหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ