เศรษฐกิจที่ซบเซาของญี่ปุ่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นหันมาส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากขึ้น ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเติบโตอย่างก้าวกระโดด และมีสัดส่วนสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจถึง 7.4% ของจีดีพีในปี 2018 แต่สถานการณ์แพร่ระบาดของ “โควิด-19” ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกรวมถึง “ญี่ปุ่น” ที่รัฐบาลพยายามเร่งหามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังภาวะโรคระบาดสิ้นสุดลง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเปิดเผยตัวเลข นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมายังญี่ปุ่นในเดือน เม.ย. 2020 อยู่ที่เพียง 2,900 คน ลดลงราว 99.9% จากเดือน เม.ย. 2019 และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการเก็บสถิติในปี 1964 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวรายเดือนต่ำกว่า 10,000 คน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่ำสุดที่เคยบันทึกไว้อยู่ที่ 17,543 คนในเดือน ก.พ. 1964
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- พบรอยร้าวบ่อฝังกลบกากแคดเมียมของ เบาด์ แอนด์ บียอนด์
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงอย่างมากในเดือน เม.ย. 2020 เป็นผลมาจากมาตรการควบคุมการเดินทางที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 โดยขยายข้อจำกัดการเดินทางครอบคลุมราว 70 ประเทศ อย่างจีน เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป ในช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาในเดือน เม.ย. 2020 ลดลงเหลือเพียง 200 คนจาก 726,132 คนในช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนเกาหลีใต้เหลือเพียง 300 คนจาก 566,624 คน ไต้หวันและสหรัฐอเมริกาเหลือประเทศละ 300 คนเท่านั้น ขณะที่อิตาลีและสเปน ซึ่งเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก ก็มีจำนวนผู้เดินทางมายังญี่ปุ่นลดลงน้อยกว่า 10 คน
ทั้งนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติของญี่ปุ่นในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 2020 อยู่ที่ประมาณ 3.94 ล้านคน ลดลง 64.1% จากช่วงเดียวกันของปี 2019 ขณะเดียวกันคนญี่ปุ่นที่เดินทางออกนอกประเทศในเดือน เม.ย. ก็ลดลงเหลือเพียง 3,900 คน ลดลง 99.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
แม้การลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวครั้งนี้จะเป็นผลมาจากมาตรการจำกัดการเดินทาง แต่พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในญี่ปุ่น มีแนวโน้มลดลงมาต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ต.ค. 2019 ซึ่งเป็นผลมาจากความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่ตึงเครียดในขณะนั้น ทำให้มีการบอยคอตการเดินทางมาญี่ปุ่น รวมถึงสถานการณ์พายุไต้ฝุ่นฮากิบิสที่สร้างความเสียหายให้กับญี่ปุ่น
ขณะที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าจะให้มหกรรมกีฬาโอลิมปิกโตเกียว 2020 เป็นตัวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลับมาเติบโตอีกครั้ง แต่การแพร่ระบาดอย่างไม่คาดคิดของโควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนการจัดการแข่งขันออกไปเป็นปี 2021 และทำให้ความหวังที่การแข่งขันครั้งนี้จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจญี่ปุ่นดับวูบไปชั่วขณะ
จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่มีแนวโน้มดีขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมดำเนินแผนการกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศ โดยเจแปนไทม์รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศในแคมเปญ “โก ทู แทรเวล” (Go To Travel) ซึ่งใช้งบประมาณราว 1.35-1.7 ล้านล้านเยน โดยคาดว่าจะเริ่มแคมเปญในเดือน ก.ค.นี้ เพื่อรองรับการยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางทั้งหมดของญี่ปุ่นในวันที่ 1 ส.ค.นี้
ขณะที่ล่าสุดฟอร์บสรายงานว่า กรมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (เจทีเอ) เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ว่า แผนกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวดังกล่าวจะเป็นการสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับพลเมืองญี่ปุ่นสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยตามเอกสารงบประมาณของกระทรวงเศรษฐกิจญี่ปุ่น ได้ระบุข้อเสนอให้มีการแจกบัตรกำนัลท่องเที่ยวสำหรับโรงแรมและร้านอาหารต่าง ๆ เพื่อเป็นส่วนลดให้กับนักท่องเที่ยวสูงสุด 20,000 เยน/คน ต่อการเข้าพักหรือการใช้บริการ 1 ครั้ง
แต่มาตรการเหล่านี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของรัฐบาลและอาจมีการขยายความครอบคลุมของมาตรการเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างชาติต่อไป
