ยอดเงินฝากชาวต่างชาติในสิงคโปร์พุ่ง ส่งสัญญาณนักลงทุนทั่วโลกหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างการเปิดเผยข้อมูลจากธนาคารกลางสิงคโปร์ (เอ็มเอเอส) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (1 มิ.ย 2020) พบว่ายอดตัวเลขเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศในระบบธนาคารของสิงคโปร์ ประจำเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้นเตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งในกรณีดังกล่าวบลูมเบิร์ก ชี้ว่า เกิดจากการหลีกหนีความเสี่ยงของนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงการย้ายเงินออกจากฮ่องกงเข้าสู่สิงคโปร์เนื่องจากความตึงเครียดทางการเมือง

โดยทางแบงก์ชาติสิงคโปร์ เปิดเผยว่ายอดเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศในระบบธนาคารของสิงคโปร์ ประจำเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดเงินฝากของผู้ที่ไม่ได้มีถิ่นอาศัยพำนักในประเทศเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 62,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 44% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาและยังเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เมื่อปี 1991

ในกรณีดังกล่าว “ดีกชา เกรา” นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมธนาคารของทีมวิจัยจากบลูมเบิร์ก ชี้ว่า การเพิ่มขึ้นของเงินฝากของชาวต่างชาติเกิดจากการลดขนาดการถือของสินทรัพย์ทางการเงินของนักลงทุนรายใหญ่ทั่วโลก เช่น กองทุน รวมถึงไพรเวท แบงก์ โดยกลุ่มเหล่านี้จึงได้นำเงินสดมาฝากยังธนาคารของสิงคโปร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สามารถดึงดูดเงินของนักลงทุนเหล่านี้

นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของความตึงเครียดในฮ่องกงจากการพิจารณากฎหมายความมั่นคงโดยรัฐบาลปักกิ่งและการถูกถอดสิทธิพิเศษทางการค้าและการลงทุนจากสหรัฐได้ท้าทายสถานะการเป็นศูนย์กลางทางการเงินของฮ่องกงซึ่งนอกจากจะส่งผลให้เม็ดเงินจากฮ่องกงไหลเข้าสู่สิงคโปร์แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมสถานะของสิงคโปร์ที่ยิ่งดึงดูดเม็ดเงินทุนต่างชาติอีกด้วย