ยอดผู้ป่วยโควิด “บราซิล” ทะลุ 1 ล้านราย สถานการณ์การระบาดยังคงรุนแรง

สำนักข่าวรอยเตอร์สรางานอ้างประกาศจากกระทรวงสาธารณสุขของบราซิล เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 มิ.ย. 2020) ซึ่งเปิดเผยว่า ปัจจุบันบราซิลมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19  พุ่งขึ้นเกิน 1 ล้านรายแล้ว ส่งผลให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่เผชิญกับสถานการณ์การระบาดที่รุนแรงเป็นอันดับที่ 2 ของโลก โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเป็นรองแค่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น

ทั้งนี้ ข้อมูลของทางการล่าสุด พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศมีจำนวนทั้งหมด 1,032,913 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 48,954 ราย โดยภายใน 24 ชั่วโมงล่าสุดมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 54,711 ราย ซึ่งบ่งชี้ว่าบราซิลยังคงไม่สามารถจัดการกับสถานการณ์การระบาดได้

โดยทางการบราซิลยืนยันการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งแรกเมื่อ 26 ก.พ. 2020 หลังจากนั้นไวรัสจึงได้แพร่กระจายอย่างหนักไปทั่วประเทศ  ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ว่า สถานการณ์จริงอาจเลวร้ายกว่าการรายงานตัวเลขของทางการมาก เนื่องจากการตรวจหาเชื้อที่ไม่มากพอ ในกรณีดังกล่าว “อเล็กซานเดอร์ บาร์โบซาร์” ศาสตราจารย์วิชาแพทย์ศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเซา เปาโล ชี้ว่า “ผู้ติดเชื้อจริงอาจมีมากกว่า 3 ล้านราย และอาจสูงถึง 10 ล้านรายด้วยซ้ำไป”

ซึ่งสถานการณ์การระบาดที่รุนแรงได้ทำลายความนิยมของ “ชาอีร์ โบลซานาโร่” ประธานาธิบดีปีกขวาจัดของบราซิล ผู้มีสไตล์การบริหารประเทศที่คล้ายคลึงกับ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีของสหรัฐ จนตัวเขาได้รับฉายาว่า  “ทรัมป์ แห่งเขตร้อน” 

ในส่วนของการบริหารสถานการณ์เพื่อควบคุมการระบาดนั้น ผู้นำทั้งสองมีแนวคิดการต่อต้านมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยอ้างว่าจะเป็นมาตรการที่ทำลายการจ้างงานและเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ทั้งคู่ยังสนับสนุนการใช้ยาต้านเชื้อมาลาเรียสำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อีกด้วย แม้ว่าจะไม่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์รองรับก็ตาม