สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานอ้างประกาศจากบริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี (เอดีเอ็นโอซี) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (23 มิ.ย. 2020) ระบุว่าทางรัฐวิสาหกิจพลังงานของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (ยูเออี) แห่งนี้ ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับผู้ลงทุนชั้นนำของโลกจำนวน 6 แห่ง เพื่อจัดตั้งกิจการร่วมค้า (Consortium) มูลค่า 20,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะทำการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางด้านพลังงานของประเทศยูเออี
รายงานระบุว่ากิจการร่วมค้าดังกล่าวจะเข้าจะลงทุนเพื่อรับสิทธิเช่า (Lease Rights) ในท่อส่งพลังงานจำนวน 38 แห่ง ของบริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี ซึ่งทางบริษัท ชี้ว่า “ข้อตกลงครั้งนี้นับว่าเป็นการลงทุนทางโครงสร้างพื้นฐานพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค” โดยทางเอดีเอ็นโอซีจะเข้าถือหุ้นในกิจการร่วมค้าแห่งนี้สัดส่วน 51%
ขณะที่ผู้ลงทุนทั้ง 6 แห่ง ประกอบด้วย โกลบอล อินฟาร์สตรัคเจอร์ พาร์ทเนอร์, บรู๊กฟิลด์ แอสเซท เมเนจเมนท์, กองทุนความมั่งคั่งงแห่งชาติสิงคโปร์, กองทุนบำนาญครูแห่งออนตาริโอ, เอ็นเอช อินเวสต์เมนท์ แอนด์ เซคิวริติ้ และสแนมซึ่งเป็นบริษัททางด้านโครงสร้างพื้นฐานพลังงานของอิตาลี โดยทั้งหมดจะร่วมกันลงทุนมูลค่า 10,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐและเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 49%
ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของยูเออีที่ต้องการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลลค่าสินทรัพย์ของประเทศ โดย สุลต่าน “อาเหม็ด อัล-เจเบอร์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและประธานบริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี กล่าวว่า “ทางบริษัทเปิดกว้างและพร้อมต้อนรับนักลงทุนรายอื่น ๆ ทั่วโลก”