‘อเมซอน’ ตั้งงบ 500 ล้านดอลลาร์ แจกโบนัสพนักงานช่วงโควิด-19

REUTERS/Kevin Mohatt/File Photo

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า “อเมซอน” บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ระดับโลก มอบเงินโบนัสให้พนักงานที่ปฏิบัติงานในส่วน “แนวหน้า” ตลอดช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เป็นงบประมาณกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งยังยกเลิกเพดานค่าจ้างพนักงานรายชั่วโมง 2 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง และจ่ายค่าล่วงเวลาเป็นสองเท่าให้กับพนักงานที่ปฏิบัติงานในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมด้วย

“เดฟ คลาร์ก” รองประธานอาวุโสของอเมซอนระบุว่า “ทีมพนักงานแนวหน้าของเราสามารถปฏิบัติงานได้อย่างไม่น่าเชื่อในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และเราต้องการแสดงความขอบคุณด้วยการมอบโบนัสพิเศษในครั้งนี้รวมกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ”

โดยพนักงานประจำของอเมซอน พนักงานของโฮลฟูดส์ (Whole Foods) และพนักงานจัดส่งสินค้าจะได้รับโบนัสรายละ 500 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนพนักงานพาร์ตไทม์และผู้ขับรถนอกเวลาจะได้รับรายละ 250 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหัวหน้าพนักงานที่ปฏิบัติงานแนวหน้าจะได้รับคนละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่พันธมิตรบริการจัดส่งสินค้าดีลิเวอรีจะได้รับโบนัสสูงถึง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ พนักงานขับรถสำหรับอเมซอนเฟกซ์ (Amazon Flex) ที่ทำงานมากกว่า 10 ชั่วโมงขึ้นไปในช่วงเดือนมิถุนายนก็จะได้รับโบนัส 150 ดอลลาร์สหรัฐด้วย

ทั้งนี้ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนไม่สามารถเดินทางออกนอกที่พักอาศัยได้จากมาตรการควบคุมโรค ทำให้ความต้องการสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้อเมซอนได้รับอานิสงส์ไปด้วย

อย่างไรก็ตาม อเมซอนก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยที่มีให้กับพนักงานที่ยังคงต้องปฏิบัติงานในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเฉพาะพนักงานราว 400,000 คนในโกดังสินค้ากว่า 110 แห่งทั่วอเมริกาเหนือ ซึ่งพบว่าพนักงานจำนวนมากติดเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โดยมีถึงอย่างน้อย 10 รายที่เสียชีวิตจากโควิด-19

ขณะนี้อเมซอนยังกำลังอยู่ในกระบวนการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ของทางการสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับมาตรการรักษาให้กับพนักงานคลังสินค้าหลายแห่ง และยังถูกฟ้องร้องเกี่ยวกับกรณีคลังสินค้าบนเกาะสแตเทนของรัฐนิวยอร์ก ที่มีการรักษาความปลอยภัยให้กับพนักงานไม่เพียงพอ

แต่อเมซอนได้ชี้แจงต่อข้อกล่าวหาดังกล่าวว่า บริษัทมีการปรับปรุงกระบวนการรักษาความปลอดภัยมากกว่า 150 รายการ และยังเปิดเผยว่าได้ใช้งบประมาณที่เกี่ยวข้องกับโคโรน่าไวรสัสายพันธุ์ใหม่ไปแล้วถึง 600 ล้านดอลลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาส 1/2020 และคาดว่างบประมาณในส่วนดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นถึงอย่างน้อย 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ