สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่าคณะกรรมการกลางกำกับและดูแลกิจการสื่อสารโทรคมนาคมของสหรัฐ (เอฟซีซี) ได้ออกคำสั่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (30 มิ.ย. 2020) ประกาศขึ้นทะเบียน “หัวเว่ย” และ “แซตทีอี” บริษัทโทรคมนาคมสัญชาติจีนว่าเป็นภัยคุกคามทางด้านความมั่นคงต่อสหรัฐ
ซึ่งคำสั่งดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทผู้ให้บริการด้านเครือข่ายของสหรัฐที่ซื้ออุปกรณ์หรือรับการบริการจาก “หัวเว่ย” และ “แซตทีอี” จะไม่สามารถเข้าถึงเงินสนับสนุน 8,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ของ Universal Service Fund (USF) ที่เป็นโครงการเงินอุดหนุนสำหรับบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของเอฟซีซี โดย “อาจิต ไพ” ประธานเอฟซีซี กล่าวว่า คำสั่งขึ้นทะเบียนบริษัทจีนทั้งสองแห่งตั้งอยู่บนหลักฐานจำนวนมากที่บ่งชี้ว่า “หัวเว่ย” และ “แซตทีอี” เป็นภัยคุกคามต่อเครือข่ายโทรคมนาคมของสหรัฐ
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้หยายามสกัดกั้นการดำเนินธุรกิจของบริษัทเทคโนโลยีโทรคมนาคมจากจีน โดยได้ประกาศขึ้น “บัญชีดำ” บริษัทเทคโนโลยีจากจีน เมื่อปี 2019 ซึ่งสร้างความยากลำบากต่อการทำธุรกิจในสหรัฐ เนื่องบริษัทสหรัฐจำเป็นต้องขอใบอนุญาติจากทางการก่อนที่จะทำธุรกิจกับบีริษัทที่ถูกแบล็กลิสต์ นอกจากนี้เมื่อ พ.ค. 2020 รัฐบาลสหรัฐยังออกคำสั่งซึ่งเป้นการจำกัด “หัวเว่ย” จากการเข้าถึงชิปที่ผลิตด้วยเทคดนโลยีของสหรัฐอีกด้วย
