สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เฟซบุ๊ก วอตส์แอปป์ ทวิตเตอร์ กูเกิล และเทเลแกรม ประกาศยุติให้ความร่วมมือเปิดเผยข้อมูลผู้ใช้งานให้กับหน่วยงานตำรวจของฮ่องกง หลังจากที่รัฐบาลจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพของชาวฮ่องกง
โดย เทเลแกรม ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นส่งข้อความสนทนาของอังกฤษ นับเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ประกาศยุติการให้ความร่วมมือดังกล่าวกับสำนักงานตำรวจฮ่องกง “เราตระหนักถึงสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใช้งานของเราในฮ่องกง ดังนั้นเทเลแกรมจะไม่ดำเนินการตามคำร้องขอใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลผู้ใช้งานในฮ่องกง จนกว่าจะมีฉันทามติในระดับสากลเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในฮ่องกง”
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค. 2567
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
ขณะที่ เฟซบุ๊ก ระบุว่าจะหยุดพิจารณาคำร้องขอข้อมูล ระหว่างที่กำลังประเมินประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนของฮ่องกง โดยบริษัทระบุด้วยว่า จะไม่มีการจัดเก็บหรือเปิดเผยข้อมูลผู้ใช้งานในภูมิภาคที่สำนักงานของเฟซบุ๊กในฮ่องกงด้วย เช่นเดียวกันกับ วอตส์แอปป์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของเฟซบุ๊กระบุว่า “เรายังจะมุ่งมั่นให้บริการส่งข้อความที่เป็นส่วนตัวและปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งานในฮ่องกง”
ส่วน กูเกิล และ ทวิตเตอร์ ก็มีการประกาศคล้ายคลึงกัน โดยระบุว่าจะยุติความร่วมมือกับหน่วยงานตำรวจ ระหว่างที่บริษัทพิจารณารายละเอียดของกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่นี้ แต่ยังมีบริษัทเทคโนโลยีอีกหลายรายอย่าง แอปเปิลและไมโครซอฟต์ที่ยังคงไม่แสดงท่าทีต่อกรณีดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ บริษัทเทคโนโลยีจะเปิดเผยข้อมูลผู้ใช้งานภายใต้กฎหมายของประเทศนั้น ๆ ให้กับหน่วยงานตำรวจตามคำร้องขอในบางกรณี อย่างเช่นในสหรัฐอเมริกา การขอข้อมูลพื้นฐานอย่าง ชื่อผู้ใช้ ที่อยู่ไอพี และอีเมลของผู้ใช้งานจากผู้ให้บริการ จำเป็นต้องใช้หมายศาลเพื่อร้องขอข้อมูลเป็นการเฉพาะ