5 สายการบินสหรัฐ ยื่นหนังสือขอเงินกู้รัฐบาลช่วยพยุงธุรกิจ

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างอิงการเปิดเผยข้อมูลของกระทรวงการคลังสหรัฐเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (7 ก.ค. 2020) ซึ่งระบุว่าสายการบินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เช่น ยูไนเต็ด, เดลต้า, อลาสก้า แอร์ไลน์, เจ๊ทบูลส์ แอร์เวย์ และเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ ได้ยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงค์ขอรับเงินช่วยเหลือจากโครงการเงินกู้ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นโครงการภายใต้กฎหมาย CARES Acts ของรัฐบาล

เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดที่กลับมารุนแรงในหลายรัฐส่งผลให้มีการนำมาตรการจำกัดการท่องเที่ยวมาบังคับใช้อีกครั้งหลังมีการเริ่มคลายมาตรการไป โดยพบว่าที่นิวยอร์ก, นิวเจอร์ซีย์ และคอนเนคติคัทได้ออกกฎกักตัว 14 วัน สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ซึ่งส่งผลต่อการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและกระทบต่อการฟื้นตัวของสายการบิน

ในกรณีดังกล่าสายการบิน “ยูไนต็ด” เปิดเผยว่ายอดจองของเดือน ก.ค. ลดลง 16% เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อน ซึ่งภาพการฟื้นตัวที่ดูไม่สดใสส่งผลให้บริษัทเขียนจดหมายถึงพนักงานว่าบริษัทอาจมีการปลดพนักงานออกในวันที่ 1 ต.ค. ขณะที่สายการบิน “เดลต้า” ก็ได้ปรับลดคาดการณ์จำนวนเที่ยวบินในเดือน ส.ค. เช่นกันจากที่เคยคาดไว้หลังเริ่มมีการคลายการล็อคดาวน์

ทั้งนี้ รายงานระบุว่าปัจจุบันสายการบินได้รับเงินจาก “โครงการช่วยเหลือค่าจ้างพนักงาน” ไปแล้วกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือเพื่อไม่ให้เกิดการปลดคนงานออกระหว่างช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตามสถานการณ์ที่กลับมารุนแรงในหลายรัฐอาจทำให้สายการบินอาจต้องเข้าร่วมโครงการเงินกู้นี้

ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงการคลังระบุว่าได้ตกลงรายละเอียดการให้กู้แก่สายการบินไปแล้ว 5 แห่ง  ขณะที่สายการบินอื่น ๆ มีเวลาตัดสินใจเข้าร่วมโครงการกู้นี้ไปจนถึง 30 ก.ย. 2020 โดยผู้รับเงินกู้นี้จะต้องรับเงื่อนไขบางอย่างของรัฐบาล เช่น การงดซื้อหุ้นคืน และการงดจ่ายผลประโยชน์แก่ผู้บริหาร