ฮ่องกง ไม่ระคาย “กฎหมายความมั่นคง” เงินทุน “ทะลัก” ไหลเข้า

A man wearing a face mask walks past a bank's electronic board showing the Hong Kong share index at Hong Kong Stock Exchange Tuesday, June 30, 2020. Asian shares are rising, cheered by a rally on Wally Street that underlined some optimism about global business performance despite the ongoing coronavirus pandemic. (AP Photo/Vincent Yu)
คอลัมน์ ชีพจรเศรษฐกิจโลก
โดย นงนุช สิงหเดชะ

หลังจากจีนนำกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่มาบังคับใช้ในฮ่องกงเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา สิ่งที่ถูกจับตาก็คือมันจะมีผลอย่างไรต่อสถานะของฮ่องกง เพราะเกิดความระแวงว่าความเป็นศูนย์กลางการเงินเสรีของฮ่องกงจะหมดไป เสี่ยงที่นักลงทุนต่างชาติ จะหอบเงินลงทุนหนีไปที่อื่นหมด

แต่รัฐบาลจีนก็ฉลาด ตามตำราที่ว่าเมื่อลงโทษด้วยไม้เรียว ก็ต้องมีแครอตเป็นรางวัล เมื่อมือหนึ่งเอื้อมเข้าควบคุมฮ่องกงอย่างแน่นหนาเพื่อปราบปรามม็อบประท้วงเอกราชและประชาธิปไตย มืออีกข้างก็เปิดทางให้เงินทุนไหลเข้าไปด้วยเงื่อนไขล่อใจต่าง ๆ ซึ่งเท่ากับส่งสัญญาณยืนยันว่ารัฐบาลจีนยังสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งที่จะให้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการเงินโลกต่อไป

สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงไม่กี่วัน ธนาคารกลางจีนได้เปิดตัวโครงการ Wealth Management Connect ซึ่งอนุญาตให้นักลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่จาก Greater Bay Area สามารถซื้อผลิตภัณฑ์การเงินในฮ่องกงและมาเก๊าได้ และในทางกลับกันอนุญาตให้นักลงทุนในฮ่องกงและมาเก๊า สามารถซื้อผลิตภัณฑ์การเงินของจีนแผ่นดินใหญ่ได้เช่นกัน

Greater Bay Area (GBA) เป็นโครงการพัฒนาเศรษฐกิจ 9 เมืองสำคัญในมณฑลกวางตุ้งของจีน และรวมถึงฮ่องกง มาเก๊า โดยทั้งหมดนี้มีสัดส่วนประมาณ 12% ของจีดีพีจีนทั้งหมด

นักวิเคราะห์เชื่อว่า Wealth Management Connect จะดึงดูดเงินลงทุนเข้ามาในฮ่องกงและจูงใจให้สถาบันการเงินต่างชาติขยายกิจการในฮ่องกงต่อไป เบรนแดน อาเฮิร์น หัวหน้าเจ้าหน้าที่นักลงทุนของเครนแชร์ ให้ความเห็นว่า หากคิดว่าสถานะศูนย์กลางการเงินของฮ่องกงจะหายไป ก็จงคิดใหม่ โครงการนี้เป็นการยืนยันว่าสถานะของฮ่องกงไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย และขณะเดียวกันก็มอบเหตุผลที่หนักแน่นให้กับบริษัทการเงินที่จะปักหลักในฮ่องกงต่อไป

“บริษัทต่างชาติจะย้ายหนีงั้นหรือ ทั้งที่คลื่นเงินกำลังจะเข้ามาในฮ่องกง”

ทอมมี วู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ออกซฟอร์ด อีโคโนมิกส์ ชี้ว่า Wealth Management Connect จะดึงดูดให้สถาบันการเงินต่างชาติขยายธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในฮ่องกง โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า GBA เป็นภูมิภาคหนึ่งที่ร่ำรวยที่สุดของจีน แม้ว่าอเมริกาจะแสดงการคัดค้านอย่างรุนแรงทางวาจาต่อกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ แต่จนถึงขณะนี้มาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาตอบโต้ค่อนข้างเบา ขณะเดียวกันจีนก็ออกมาตรการจูงใจเพื่อรับประกันว่าความเป็นหนึ่งประเทศ สองระบบในฮ่องกงจะยังคงอยู่ รวมทั้งโน้มน้าวให้โลกเห็นว่าระบบของฮ่องกงยังเหมือนเดิม

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ออกซฟอร์ด อีโคโนมิกส์ ระบุอีกว่า ในระยะสั้นจะยังไม่เห็นผลกระทบด้านลบ จะเห็นว่า ในระยะไม่กี่เดือนมานี้มีเงินทุนไหลเข้ามาในฮ่องกงอย่างมาก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นอย่างนั้นต่อไป เนื่องจากมีบริษัทจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงจำนวนมาก ในระยะกลาง ฮ่องกงจะยังมีบทบาทสำคัญในฐานะประตูเข้าและออกจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนจีนก็มีแนวโน้มจะออกโครงการใหม่เรื่อย ๆ โดยให้ฮ่องกงเล่นบทบาทสำคัญ

อย่างไรก็ตาม วูเตือนว่า ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐจะยังคงเป็นความเสี่ยงหลักสำหรับฮ่องกง โดยนักลงทุนต่างชาติอาจได้รับผลกระทบระดับหนึ่งตราบใดที่ความไม่แน่นอนยังดำเนินต่อไป

ตามข้อมูลของเอิร์นส์แอนด์ยัง ระบุว่า การจดทะเบียนในตลาดหุ้นในเขต GBA เพิ่มขึ้นมากในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แม้ว่าการจดทะเบียนในตลาดหุ้นทั่วโลกจะถดถอยลงเนื่องจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ก็ตาม โดยทั้งตลาดหุ้นฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ต่างมีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนมาก และวงเงินระดมทุนก็สูงเช่นกัน


Wealth Management Connect คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นตามข้อเสนอของนางแครี แลม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง เนื่องจากเมื่อต้นเดือนที่แล้ว เธอกล่าวว่า ได้ทำข้อเสนอถึงรัฐบาลจีน เพื่อทำให้ฮ่องกงมีบทบาทลึกยิ่งขึ้นในฐานะประตูสู่จีนแผ่นดินใหญ่ เป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับธุรกรรมเงินหยวนออฟชอร์ ตลอดจนเป็นศูนย์กลางบริหารจัดการความมั่งคั่งส่วนบุคคล