ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เทสล่า ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐของ อีลอน มัสก์ ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ในไตรมาสสามการผลิตโมเดล 3 ต่ำกว่าเป้าหมาย 1,500 คัน
เทสล่า กล่าวว่า โรงงานผลิตแบตเตอรี่ในเนวาด้า และโรงงานประกอบรถยนต์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ดำเนินการผลิตไปตามเป้าหมาย เเต่ระยะเวลาที่จะได้ใช้งานกลับนานกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ “เราเข้าใจดีว่ามีปัญหาตรงไหน เเละจะต้องเเก้ไขปัญหาในส่วนใดบ้าง เเละจะเเก้ไขได้ในเร็ววัน ซึ่งโมเดล 3 ไม่มีปัญหาอะไร”
รายงานระบุเพิ่มเติมว่า ทางเทสล่ายังไม่มีเป้าหมายที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ออกมา โดยบริษัทไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับเป้าหมายการผลิตใหม่
มิเชลล์ เควส์ นักวิเคราะห์จากออโต้ทาร์เดอร์ เผยว่า นี่ไม่ใช่เรื่องน่าเเปลกใจ ธุรกิจรถยนต์ไม่ใช่เรื่องง่าย โมเดล 3 ไม่ใช่รถรุ่นเเรกที่ยอดไม่เป็นไปตามเป้าหมายการผลิตที่ระบุไว้ ซึ่งรถครอสโอเวอร์ที่มีราคาสูงของเทสล่า รุ่นโมเดลเอ็กซ์ ที่ผลิตปลายปี 2015 เปิดตัวช้ากว่ากำหนด อีกทั้งโมเดลเอส ซีดาน ที่เป็นรถรุ่นขายดีที่สุดในปัจจุบันก็ยังเปิดตัวช้ากว่ากำหนดเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเทสล่าเผยว่า ปัญหาความล่าช้าในการเปิดตัวรถรุ่นต่างๆ ของเทสล่าดีขึ้น มีบันทึกว่าในไตรมาสสอง ผลิตรถออกมาเเล้วกว่า 25,000 คัน คาดการณ์ว่า ในปี 2017 จะสามารถส่งมอบรถได้กว่า 100,000 คัน
โดยสำนักข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานล่าสุดว่า หลังจากมีข่าวปัญหากำลังการผลิต หุ้นของบริษัทร่วงลงถึง 2% ซึ่งเทสล่าเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโมเดล 3 ในเดือนกรกฎาคม ส่งมอบรถไปเพียง 220 คัน เเละในช่วงไตรมาสนี้ผลิตได้เพียง 260 คัน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,500 คัน
ด้านนักวิเคราะห์จาก Cowen เเละ Co เผยว่า เป้าหมายการผลิตที่เทสล่าตั้งไว้สัปดาห์ละ 5,000 คัน ภายในสิ้นปี 2017 มีความเสี่ยง นอกจากนี้เทสล่ายังเจอคู่เเข่งอย่าง เจเนอรัลมอเตอร์ส (Genoa Motors Co) ที่วางเเผนเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2023 อีกด้วย