สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานอ้างคำกล่าวของ “แกรี่ เคลลี่” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบิน “เซาท์เวสต์ แอร์ไลน์” เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 ก.ค. 2020) ระบุว่าทางสายการบินชั้นนำของสหรัฐอเมริกาแห่งนี้ได้ลดพนักงานลงกว่า 17,000 ตำแหน่ง หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 28% ของพนักงานทั้งหมด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดต้นทุนของบริษัทเพื่อรองรับกับภาวะซบเซาของอุตสาหกรรมการบิน
โดย สายการบินของสหรัฐอเมริกาจำนวนมากจำเป็นต้องลดต้นทุนค่าจ้างพนักงานลง เนื่องจากภาวะของอุตสาหกรรมการบินที่ยังไม่อาจฟื้นตัวในเร็ว ๆ นี้ จากการระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ รวมถึงการสิ้นสุดโครงการเงินช่วยเหลือของรัฐบาลสำหรับค่าจ้างพนักงานสายการบินมูลค่า 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 1 ต.ค. 2020
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ขาลงยางพารา ราคาร่วงฉุดไม่อยู่ 10 วันราคาตกลงไปแล้ว 7 บาทกว่า
ภายใต้ข้อตกลงของโครงการดังกล่าว ระบุว่า รัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายเงินค่าจ้างให้กับพนักงานของสายการบิน ขณะที่สายการบินจะต้องไม่ปลดพนักงานเหล่านี้ออกเพื่อแลกกับเงินอุดหนุนก้อนนี้จากรัฐ อย่างไรก็ตามการสิ้นสุดของโครงการและภาวะการดำเนินธุรกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวได้ส่งผลให้สายการบินจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลง
ซึ่ง “เซาท์เวสต์ แอร์ไลน์” ได้ดำเนินโครงการลดพนักงาน 2 โครงการ ประกอบด้วย การเออร์รี่ รีไทร์ และการพักงานโดยได้รับค่าจ้างเพียงบางส่วนหรืออาจไม่ได้รับเลย โดย “แกรี่ เคลลี่” ซีอีโอของ “เซาท์เวสต์ แอร์ไลน์” ระบุว่า พนักงานจำนวน 4,400 คนได้สมัครใจลาออก ขณะที่อีก 12,500 คนยินดีถูกพักงาน
นอกจากนี้รายงานยังระบุอีกว่า นักบินของ “เดลต้า แอร์ไลน์” อีกสายการบินชั้นนำของสหรัฐ จำนวนกว่า 2,600 คนยังได้เข้าร่วมโครงการเออร์รี่ รีไทร์ แล้วเช่นกัน ซึ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา “เดลต้า” ประกาศว่าอาจจำเป็นต้องลดพนักงานลงกว่า 14,000 ตำแหน่ง