สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานอ้างคำกล่าวของ “ชาลส์ มีแชล” ประธานสภาสหหภาพยุโรป ในวันนี้ (21 ก.ค. 2020) ซึ่งระบุว่าผู้นำกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) 27 ประเทศ ได้เห็นพ้องกันรายละเอียดการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการระบาดของโควิด-19 มูลค่า 750,000 ล้านยูโร ภายหลังการเจรจากันที่ติดต่อกันหลายวันนับตั้งแต่ 17 ก.ค. 2020
ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะเปิดทางให้คณะกรรมาธิการยุโรปสามารถกู้เงินในนามของประเทศสมาชิกทั้ง 27 ประเทศ อันเป็นการแสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของสหภาพยุโรปเพื่อร่วมกันฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจจากโควิด-19
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
โดยก่อนหน้านี้ผู้นำประเทศยุโรปมีข้อถกเถียงกันว่า กองทุนดังกล่าวควรมีจำนวนเงินอุดหนุนและเงินกู้เป็นสัดส่วนเท่าไหร่จากจำนวนเงินทั้งหมดของกองทุนกว่า 750,000 ล้านยูโร ในกรณีนี้รายงาน ระบุว่า ผู้นำยุโรปเห็นพ้องกันว่าควรจัดให้เป็นเงินอุดหนุนราว 390,000 ล้านยูโร และเป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 360,000 ล้านยูโร ซึ่งลดลงจากเมื่อก่อนหน้าที่ทางเยอรมนีและฝรั่งเศสเสนอให้มีเงินอุดหนุน 500,000 ล้านยูโร
นอกจากนี้สมาชิกที่ต้องการขอเงินช่วยเหลือยังต้องจัดทำแผนของการใช้เงินดังกล่าวอีกด้วย และเสนอต่อสหภาพซึ่งจะต้องได้รับการรับรองจากประเทศสมาชิก ทั้งนี้ รายงานยังระบุอีกว่า ประเทศสมาชิกจะเริ่มขอเงินฟื้นฟูจากกองทุนนี้ได้ในช่วงเดือน ม.ค. 2021