‘เอฟบีไอ’ เร่งเสาะหาสมาชิกกองทัพจีนแฝงตัวใน 25 รัฐ

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างประกาศจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (23 ก.ค. 2020) ระบุว่าสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ได้ดำเนินการตรวจสอบผู้ถือวีซ่าชาวจีนใน 25 รัฐของประเทศ ซึ่งบุคคลเหล่านี้ถูกต้องสงสัยว่าอาจเป็นสมาชิกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีนที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อจารกรรมข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ

โดยสหรัฐได้กล่าวหาจีนมาโดยตลอดว่าได้ขโมยข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐทั้งในด้านเทคโนโลยีไปจนถึงด้านการทหารเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเป็นมหาอำนาจเบอร์ 1 แทนที่สหรัฐ สืบเนื่องจากข้อกล่าวหานี้ สหรัฐจึงได้สั่งปิดสถานกงสุลของจีนที่ฮุสตัน ทำให้ความสัมพันธ์ของ 2 มหาอำนาจได้ตึงเครียดอย่างหนัก ซึ่งการดำเนินการของเอฟบีไอจะยิ่งสร้างรอยร้าวมากยิ่งขึ้น

โดย “จอห์น เดลเมอร์ส” ผู้ช่วยอัยการสูงสุดของสหรัฐ ชี้ว่า สมาชิกของกองทัพจีนได้ปกปิดสถานะดังกล่าวของตนและได้ขอวีซ่าการวิจัยในสหรัฐ จากนั้นจึงเข้าร่วมกับสถาบันการวิจัยศึกษาเพื่อทำการจารกรรมข้อมูล ซึ่งในวันเดียวกัน เอฟบีไอได้ออกแถลงการณ์อีกฉบับ ระบุว่า ได้ทำการจับกุมตัวผู้ถือชาวจีน 3 ราย ในข้อหาปกปิดสถานะการเป็นสมาชิกของกองทัพปลกแอกประชาชนจีน

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการไล่ล่าและกวาดล้างจารชนของจีนที่แฝงตัวในสหรัฐอย่างหนัก โดย “เจมส์ มัลเวนอน” ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทางการทหารและไซเบอร์ของจีน ชี้ว่า “เป็นการตอบโต้จารชนจีนที่รุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี นับตั้งแต่ทั้งสองประเทศเริ่มสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1979”