ไต้หวัน “ตาอยู่” จอมเสียบ ล่อใจแบงก์ต่างชาติย้ายหนีฮ่องกง

REUTERS/Tyrone Siu/File Photo
ชีพจรเศรษฐกิจโลก นงนุช สิงหเดชะ
การที่รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกง ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีแนวโน้มจะทำให้กิจการต่างชาติส่วนหนึ่งย้ายฐานหนีไปอยู่ที่อื่นในเอเชีย ซึ่งมีหลายประเทศที่เข้าข่ายได้รับอานิสงส์ หนึ่งในนั้นคือไต้หวัน ดินแดนที่จีนถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่ผู้นำไต้หวันยืนยันความเป็นเอกราช

อย่างที่ทราบกัน ไต้หวันนั้นพาตัวเองเข้าไปแนบชิดอยู่กับอเมริกา ซึ่งเป็นขั้วตรงข้ามกับจีน เพื่อหวังความช่วยเหลือจากอเมริกาในด้านความมั่นคง ด้วยเหตุนั้นเมื่อจีนบังคับใช้กฎหมายมั่นคงใหม่ในฮ่องกง ไต้หวันแสดงออกอย่างชัดเจนในทิศทางเดียวกับประเทศตะวันตก นั่นคือพร้อมจะอ้าแขนรับชาวฮ่องกงให้มาอยู่อาศัยหากไม่สามารถทนอยู่ภายใต้กฎหมายมั่นคงฉบับใหม่ที่ถูกมองว่าลิดรอนเสรีภาพ

นอกจากนั้นแล้ว ไต้หวันยังมองเห็นโอกาสที่บรรดาธนาคารต่างชาติที่เคยมีฐานอยู่ในฮ่องกง จะย้ายไปอยู่ที่อื่น ดังนั้นจึงเริ่มวางแผนแก้กฎระเบียบต่าง ๆ ให้ผ่อนคลายลงเพื่อดึงดูดบรรดาสถาบันการเงินต่างชาติเหล่านี้ ซึ่งจากคำกล่าวอ้างของ นายหวง เทียนมู่ ประธานคณะกรรมาธิการกำกับดูแลด้านการเงินของไต้หวัน บอกว่า มีบริษัทหลักทรัพย์อเมริกันจำนวนหนึ่ง กำลังพิจารณาขยายกิจการในไต้หวัน ส่วนธนาคารต่างชาติวางแผนจะมาตั้งสำนักงานใหม่ที่นี่ แต่อ้างว่าไต้หวันไม่ได้ต้องการแทนที่ใคร ไต้หวันต้องการดึงดูดเงินทุนและความสามารถจากที่อื่น ๆ ในเอเชียด้วย ไม่ใช่เฉพาะจากฮ่องกง

นายหวงเผยว่า วางแผนจะผ่อนคลายกฎระเบียบบางอย่างเพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน เช่น เร่งรัดนโยบายที่จะให้บริษัทในไต้หวันสามารถเปิดบัญชีธนาคารนอกประเทศได้เพื่อหวังจะดึงเงินของชาวไต้หวันกลับมาจาก แหล่งหลบเลี่ยงภาษี (tax havens) ต่าง ๆ นอกจากนี้จะปรับแก้กฎระเบียบให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลเพื่อดึงดูดเงินลงทุนต่างชาติ อีกทั้งยังกำลังเจรจากับ แนสแดค อิงก์ ของสหรัฐ เกี่ยวกับการจดทะเบียนไขว้ในตลาดหุ้นของกันและกันทันทีที่ไต้หวันจัดตั้งตลาดหุ้นสำหรับบริษัทขนาดเล็กและสตาร์ตอัพด้านเทคโนโลยีเสร็จเรียบร้อยภายในปีนี้

ไต้หวันยังจะดำเนินการอีกหลายอย่าง เช่น แก้ไขกฎหมายว่าด้วยการประกันภัยในประเทศ ตอบสนองความต้องการของบริษัทประกันภัยและผู้จัดการกองทุนต่าง ๆ ที่ต้องการเครื่องมือประกันความเสี่ยง เป็นต้น

สถานการณ์ในฮ่องกงยังทำให้รัฐบาลไต้หวันมองเห็นแนวโน้มที่บุคลากรเก่ง ๆ ด้านการเงินจะหลั่งไหลออกจากฮ่องกง จึงเป็นโอกาสที่จะทำให้เศรษฐกิจไต้หวันกลับมากระปรี้กระเปร่า หลังจากประสบปัญหาประชากรอิ่มตัว ขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะและการส่งออกที่ลดลง จึงได้จัดตั้งสำนักงานขึ้นมาเป็นการเฉพาะเพื่ออำนวยความสะดวกชาวฮ่องกงที่ต้องการย้ายถิ่นฐานรวมทั้งบริษัทข้ามชาติหลายแห่งที่ต้องการย้ายมาที่นี่

การย้ายถิ่นฐานของชาวฮ่องกงรวมทั้งการลงทุนมายังไต้หวัน เกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้วด้วยสถิติมากเป็นพิเศษนับจากเกิดความไม่สงบขึ้นในฮ่องกง และแนวโน้มนี้จะเกิดขึ้นต่อไป โดย 5 เดือนแรกของปีนี้จำนวนชาวฮ่องกงที่มาตั้งถิ่นฐานในไต้หวันเพิ่มขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ไม่เพียงประเทศใกล้เคียงเท่านั้นที่หมายตาตะครุบมืออาชีพด้านการเงินจากฮ่องกง แต่ประเทศที่อยู่ไกลออกไปอย่างญี่ปุ่นก็จ้องอยู่เช่นกัน โดย ส.ส.พรรคแอลดีพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล เสนอให้ออกมาตรการดึงดูดมืออาชีพและการลงทุนจากต่างชาติเพื่อส่งเสริมให้ญี่ปุ่นเป็นศูนย์กลางการเงินที่ญี่ปุ่นใฝ่ฝันมานาน ซึ่งอาจมีการผ่อนคลายเกณฑ์การออกวีซ่าสำหรับบุคลากรวิชาชีพชั้นสูงที่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันญี่ปุ่นมีต่างชาติที่ได้รับวีซ่าประเภทนี้เพียง 13,000 คน

นางซัตสึกิ คาทายามะ ส.ส.พรรคแอลดีพี ซึ่งเป็นผู้เสนอแนวคิดดังกล่าวระบุว่า ข้อได้เปรียบของญี่ปุ่นก็คือเสรีภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฮ่องกงไม่มี นอกจากนั้นญี่ปุ่นก็เป็นตลาดใหญ่มีประชากรมากถึง 127 ล้านคน มากกว่าประชากรสิงคโปร์ ทั้งนี้ การที่นางคาทายามะพาดพิงสิงคโปร์ ก็เพราะสิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีเงินทุนจากฮ่องกงไหลเข้า เนื่องจากในทางภูมิศาสตร์อยู่ใกล้ฮ่องกงมากกว่าและยังเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเงินสำคัญของภูมิภาคนี้