‘เบอร์นี แซนเดอร์’ เสนอแผนเก็บ ‘ภาษีความมั่งคั่ง’ มหาเศรษฐีสหรัฐ

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (6 ส.ค. 2020) “เบอร์นี แซนเดอร์” วุฒิสมาชิกสหรัฐจากรัฐเวอร์มอนต์และอดีตผู้ลงสมัครเป็นตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดี รวมถึงสมาชิกสภาคองเกรสจากพรรคเดโมแครตรายอื่น ๆ อย่าง “เอ็ด มาร์กี้” และ “เคริสเตน กิลลิแบรนด์” ได้ร่วมกันนำเสนอร่างแผนการเก็บภาษีความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีชาวสหรัฐที่รวยที่สุด 467 คนแรก เพื่อเป็นรายได้สำหรับค่าใช้จ่ายทางด้านสาธารสุขของชาวอเมริกันหลายล้านคน

โดยร่างกฎหมายดังกล่าวมีชื่อว่า “Make Billionaires Pay Act” ซึ่งรัฐบาลสหรัฐจะเก็บภาษี ในอัตรา 60% ของมูลค่าความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีเหล่านี้ที่เพิ่มขึ้นระหว่าง 18 มี.ค. 2020 – 5 ส.ค. 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชาวอเมริกันจำนวนมากถูกผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิด-19 แต่มหาเศรษฐีกลับมีความร่ำรวยขึ้นจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ้นเทคโนโลยี

โดยรัฐบาลคาดว่าจะเก็บภาษีได้ 731,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นภาษีชนิดจัดเก็บเพียงครั้งเดียว โดยมหาเศรษฐีที่จะถูกเก็บภาษี ประกอบด้วย “เจฟฟ์ เบซอส” ผู้ก่อตั้ง “อเมซอน” ที่จะต้องจ่ายภาษี 42,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, “อีลอน มัสก์” ผู้บริหารของ “เทสลา” ที่จะถูกรัฐจัดเก็บภาษีความมั่งคั่งนี้  27,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ “มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก” แห่ง “เฟ๊ซบุ๊ก” มูลค่า 22,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รวมถึงครอบครัว “วอลตัน” ก็เข้าข่ายเช่นกัน โดยจะถูกเก็บภาษี 12,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ