
รัฐบาลมอริเชียส เผย พบ โลมา 17 ตัว ตายเกลื่อนหาดมอริเชียส ใกล้จุดเรือน้ำมันรั่ว
วันที่ 26 สิงหาคม 2563 รอยเตอร์ส รายงานอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลมอริเชียส ระบุว่า มี ซากโลมา 17 ตัว ถูกพัดขึ้นฝั่ง เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 1 เดือน หลังเกิดเหตุน้ำมันรั่วจากเรือญี่ปุ่น ที่อับปางและหักเป็น 2 ท่อน จนสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับระบบนิเวศในพื้นที่


จาสวิน โซค อัพพาดู เจ้าหน้าที่กระทรวงประมง เผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าซากโลมามีบาดแผลหลายจุด และมีเลือดออกบริเวณขากรรไกร แต่ไม่พบร่องรอยของน้ำมัน ขณะที่โลมาอีกประมาณ 10 ตัว ที่รอดชีวิต ดูเหมือนจะมีอาการเหนื่อยล้า และ แทบว่ายน้ำไม่ไหว
เจ้าหน้าที่จะนำซากโลมาเหล่านี้ไปยังศูนย์วิจัยสัตว์ทะเลอัลเบียน เพื่อชันสูตร คาดว่าจะได้ผลในคืนวันพุธ
ด้านโฆษกกลุ่มสิ่งแวดล้อม อีโค-ซุด ได้เรียกร้องให้มีการเผยแพร่ผลการชันสูตรซากโลมาต่อสาธารณชน พร้อมกล่าวว่า ทางกลุ่มฯ ต้องการส่งตัวแทนเข้าไประหว่างการชันสูตรด้วย เพื่อจะได้ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้โลมาตาย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางกลุ่มกำลงรอการตอบกลับจากหน่วยงานรัฐ
เหตุน้ำมันรั่วจากเรือ เอ็มวี วากะชิโอะ ของญี่ปุ่น เกิดขึ้น 1 สัปดาห์ หลังจากเรืออับปางลง เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม


นักวิทยาศาสตร์ เผยว่า ผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วครั้งนี้ยังเผยออกมาไม่หมด และ ความเสียหายอาจส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของมอริเชียสนานหลายสิบปี
สัตว์ที่เสี่ยงจะสูญพันธุ์ มีทั้ง นกพิราบชมพู ซึ่งเป็นสัตว์เฉพาะถิ่นของมอริเชียส, หญ้าทะเล, ปลาการ์ตูน และ ป่าโกงกาง ซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลปลาหลากหลายพันธุ์

สมาคมอนุรักษ์ทางทะเลของมอริเชียส ระบุว่า ชายฝั่ง 15 กิโลเมตร ของมอริเชียส ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่ว และ ขอบเขตความเสียหายกำลังขยายสู่อุทยานทางทะเล บลู เบย์ ซึ่งเป็นที่อยู่ของปะการัง 38 ชนิด และ ปลา 78 สายพันธุ์