‘ทิฟฟานี่’ ฟ้อง LVMH ล้มดีลเทคโอเวอร์มูลค่า 5 แสนล้าน

ทิฟฟานี่ แอนด์ โค (Tiffany & Co.)

ทิฟฟานี่ แอนด์ โค แบรนด์ผู้ค้าอัญมณีชื่อดังของโลก เตรียมฟ้อง “แอลวีเอ็มเอช” ยักษ์แบรนด์หรูฝรั่งเศส เหตุล้มดีลซื้อกิจการมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2020 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ทิฟฟานี่ แอนด์ โค (Tiffany & Co.) บริษัทผู้ค้าอัญมณีของสหรัฐฯ ยื่นฟ้องแอลวีเอ็มเอช (LVMH) กลุ่มบริษัทแบรนด์เนมยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส เหตุประกาศยกเลิกการเข้าซื้อกิจการที่มีการทำข้อตกลงไว้ตั้งแต่เดือนพ.ย.2019

โดยเอลวีเอ็มเอช กล่าวว่า บริษัทได้รับการร้องขอจากรัฐบาลฝรั่งเศส ให้ชะลอการเข้าถือครองกรรมสิทธิ์กับบริษัททิฟฟานี่ แอนด์ โค เนื่องจากปัญหาด้านอัตราภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ ทำให้การพิจารณาถึงข้อตกลงในการซื้อกิจการมูลค่า 1.62 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.02 แสนล้านบาท) หยุดชะงัก ก่อนที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาจะเกิดขึ้น

ขณะที่บริษัททิฟฟานี่เตรียมความพร้อมที่จะยื่นฟ้องบริษัทเอลวีเอ็มเอช โดยกล่าวหาว่าบริษัทเอลวีเอ็มเอชจงใจ หลีกเลี่ยงที่จะทำให้ข้อตกลงซื้อกิจการสำเร็จลุล่วง รวมถึงการตั้งคำถามเกี่ยวกับราคาที่เสนอขายกิจการ และความโปร่งใสในการดำเนินกิจการของบริษัทแอลวีเอ็มเอชที่มีปัญหาเกี่ยวกับภาษี

นายโรเจอร์ ฟาราห์ (Roger Farah) ประธานบริษัททิฟฟานี่ แอนด์ โค กล่าวว่า บริษัทแอลวีเอ็มเอชพยายามที่จะหลีกเลี่ยงในการจัดทำข้อตกลงเพื่อถือครองกรรมสิทธิ์ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้

รายงานข่าวระบุว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา อาจส่งผลกระทบให้รายได้ในกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมและยอดขายของทิฟฟานี่ลดลงถึง 36% ในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งอาจมีความเชื่อมโยงไปถึงปัญหาการเข้าซื้อกิจการ

จากการแถลงการณ์ของบริษัทแอลวีเอ็มเอช ซึ่งเป็นผู้ส่งออกสินค้าแบรนด์เนมกว่า 75 แบรนด์รวมถึง หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) คริสเตียน ดิออร์ (Christian Dior) และดงเปรีญง (Dom Perignon) กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทต้องทบทวนถึงสถานการณ์ความขัดแย้งนี้ มีผลกระทบต่อการตัดสินใจกลุ่มลูกค้าสายแฟชั่นรุ่นใหม่

ทั้งนี้ข้อตกลงซื้อกิจการในเดือนพฤศจิกายน 2019 กำหนดว่า การซื้อกิจการจะต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2020 แต่เนื่องจากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ โดยทางแอลวีเอ็มเอช ระบุว่า บริษัททิฟฟานีแจ้งว่า คณะกรรมการบริษัทได้รับคำสั่งจากรัฐบาลฝรั่งเศส ให้เลื่อนการเข้าซื้อกิจการไปจนถึงหลังวันที่ 6 มกราคม 2021 “เพื่อตอบโต้สหรัฐจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากฝรั่งเศส”

แต่ทางทิฟฟานี่กลับกล่าวหาว่า แอลวีเอ็มเอชไม่ได้มีส่วนร่วมผลักดันเพื่อให้คณะกรรมการป้องกันการผูกขาดอนุมัติข้อตกลงการซื้อกิจการครั้งนี้ ซึ่งไม่เห็นถึงความพยายามในการที่จะทำให้ข้อตกลงการซื้อกิจการแล้วเสร็จตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ถือเป็นการฉวยโอกาสอย่างไร้เหตุผลของแอลวีเอ็มเอชในการเรียกร้องความยุติธรรมจากสหรัฐฯ และผลกระทบจากการระบาดอย่างหนักของโรคโควิด -19 เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินซื้อบริษัททิฟฟานี่ตามมูลค่าที่ตกลงไว้


นอกจากนี้ทิฟฟานี่ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าธุรกิจของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดว่ายอดขาย3เดือนสุดท้ายของปี 2020 จะสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทว่ากลับเป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงเวลานี้หุ้นของบริษัททิฟฟานี่กลับร่วงหล่นลงมามากกว่า 10% ในขณะที่หุ้นของบริษัทแอลวีเอ็มเอชลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น