บริษัทจีนแห่ “กลับบ้านเกิด” ลุยแผนเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง หนีเทรดวอร์

บริษัทจดทะเบียนสัญชาติจีนในตลาดหุ้นสหรัฐ แห่กลับไปลงทุนบ้านเกิด จากเหตุความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ล่าสุด ‘Yum China’ ยักษ์ฟาสต์ฟู้ด ตบเท้าเข้าเทรดตลาดหุ้นฮ่องกง ไม่หวั่นราคาหุ้นรูด 6%

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า “ยัม ไซน่า” (Yum China) บริษัทฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่สัญชาติจีนที่ควบคุมกิจการ KFC และ Pizza Hut มากกว่า 10,000 แห่งทั่วประเทศจีน และย่านสำคัญกว่า 1,400 แห่ง ได้เข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

นับเป็นการคืนสู่วงการธุรกิจอีกครั้งของบริษัท ยัม ไชน่า ที่หันมาให้ความสนใจกับการลงทุนด้านการตลาดภายในประเทศ แม้ว่าราคาหุ้นของ บริษัท ยัม ไชน่า จะลดลงกว่า 6% จากการเปิดตัวหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ แต่สามารถระดมทุนได้ถึง 2.2 พันล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของบริษัท ยัม ไชน่า ซึ่งซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กตั้งแต่ปี 2016 มาจากเหตุความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

โดยด้านสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กำหนดเกณฑ์จดทะเบียนของบริษัทสัญชาติจีนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก รวมถึงตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก (Nasdaq) ตลาดหลักทรัพย์เทคโนโลยีของสหรัฐ โดยต้องเกณฑ์การตรวจสอบของสหรัฐฯ สามารถเข้าถึงรายงานการตรวจสอบของบริษัทได้

ทั้งนี้ การ “กลับคืนบ้านเกิด” ของบริษัทสัญชาติจีนอื่นๆ ในตลาดหุ้นฮ่องกงในปีนี้ ได้แก่ กลุ่มอินเทอร์เน็ต NetEase และ JD.com

อย่างไรก็ดี สำหรับบริษัท ยัม ไชน่า แม้ว่าการเปิดตัวของหุ้นจะทำได้แย่กว่าที่คาดการณ์ กลับตามมาด้วยความต้องการหุ้นของบริษัทในเดือนนี้ที่พุ่งขึ้นกว่าจำนวนเสนอขายถึง 50 เท่า

ด้าน เจฟเฟอรี (Jefferies) บริษัทการลงทุนในฮ่องกง ระบุว่า การระดมทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อาจลดลงจากปัญหาความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจของบริษัท ยัม ไชน่า รวมถึงร้าน “ทาโก้ เบลล์” (Taco Bell) แบรนด์ฟาสต์ฟูดสไตล์เม็กซิกันชื่อดัง

ขณะที่ในแง่การขยับขยายธุรกิจกาแฟหรือโมเดลธุรกิจใหม่อื่นๆ อาจต้องใช้เงินทุนเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าบริษัท ยัม ไชน่าจะมีส่วนได้ส่วนเสียร่วมกับ “เมยทวน” (Meituan) แพลตฟอร์มการช็อปปิ้งออนไลน์ที่ให้บริการด้านความบันเทิง การจัดส่งอาหารและการเดินทางที่ประสบความสำเร็จอย่างมากก็ตาม

อย่างไรก็ดี เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาหุ้น IPO ของบริษัท “นงฟู สปริง” (Nongfu Spring) บริษัทน้ำดื่มบรรจุขวดของจีนกลับพุ่งทะยานสูงขึ้นราว 80% หลังจากการเปิดตัวในฮ่องกง ที่ทำให้ นายจง ซานซาน (Zhong Shanshan) ซีอีโอของบริษัทกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยเป็นอันดับสามของจีน


เช่นเดียวกับบริษัท แอนท์ (Ant) ผู้ประกอบการเทคโนโลยีด้านการเงินที่ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท อาลีบาบา ยังเดินหน้าแผนการเปิดตัวในตลาดหุ้นฮ่องกง โดยคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ