เงาสะท้อน ‘เศรษฐกิจอู่ฮั่น’ บาดแผลฝังลึกจากโควิด-19

เศรษฐกิจอู่ฮั่น
(Photo by Hector RETAMAL / AFP)

เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ของจีน จุดเริ่มต้นของโรคระบาดโควิด-19 แม้วันนี้เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวแล้วหลังเปิดเมืองมากว่า 4 เดือน แต่บาดแผลจากโควิด-19 ก็ทำให้ผู้ประกอบการในเมืองอู่ฮั่นอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเกือบแตะ 30 ล้านคนทั่วโลก และยอดเสียชีวิตเกือบ 1 ล้านคน

โกลบอลไทมส์รายงานว่า “เศรษฐกิจอู่ฮั่น” เริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจนในไตรมาส 2 ที่่ผ่านมา โดยพบว่าพื้นที่การพัฒนาของเมืองอู่ฮั่น หรือที่เรียกว่า “ออปติกส์วัลเลย์ออฟไชน่า” (Optics Valley of China) ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งอย่าง ฟอกซ์คอน, เลอโนโว, เสี่ยวมี่ และไชน่า ออพโต อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก ซึ่งทางการจีนระบุว่า เขตเศรษฐกิจดังกล่าวมีการขยายตัวถึง 13.5% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ทั้งนี้ พนักงานราว 10,000 คนของบริษัทเลอโนโว ได้กลับเข้าทำงานในโรงงานประกอบสมาร์ทโฟน และแท็บเลต ซึ่งโรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตถึงวันละ 1 แสนเครื่อง เพื่อส่งออกไปทั่วโลก “หยาง หยวนชิง” ประธานกรรมการบริษัทเลอโนโวกล่าวว่า เมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว อู่ฮั่นเป็นศูนย์กลางของโรคระบาดร้ายแรงที่ทุกคนหันหนี ไม่อยากยุ่งด้วย แต่ตอนนี้กลายเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน และได้กลายเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่รัฐบาลจีนพยายาม “ลบภาพ” จากศูนย์กลางโรคระบาด กลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

(Photo by STR / AFP) / China OUT

โดยทางการจีนพยายามส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ มาลงทุนในเมืองอู่ฮั่นมากขึ้นหลังการเปิดเมืองและเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัท ฮันนี่เวลล์ของสหรัฐ ได้เข้ามาลงทุนภายใต้ชื่อบริษัท “ฮัวเชิง อินดัสเตรียล เทคโนโลยี” ในเมืองอู่ฮั่น รวมทั้งเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา “มายด์เรย์ เมดิคอล อินเตอร์เนชั่นแนล” บริษัทผลิตเครื่องมือแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน ประกาศเข้ามาลงทุน 4.5 พันล้านหยวน (658.43 ล้านดอลลาร์) สร้างสำนักงานในอู่ฮั่น

รวมทั้งสำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า สนามบินอู่ฮั่นมีเที่ยวบินในประเทศถึง 500 ไฟลต์ และมีผู้เดินทางถึง 64,700 คน เป็นระดับรายวันสูงสุดเท่ากับจำนวนของคนที่เดินทางผ่านสนามบินเมื่อปีที่แล้ว

แม้ว่าในเขตอุตสาหกรรม โรงงานกลับมาเปิดทำการตามปกติ รวมทั้งมีการลงทุนใหม่เกิดขึ้น แต่อีกด้านภาพเศรษฐกิจท้องถิ่นของอู่ฮั่นยังคงอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก โดยเมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการท้องถิ่นในอู่ฮั่นได้ออกมาประท้วง และเรียกร้องการสนับสนุนจากรัฐบาล เนื่องจากมีเพียง 1 ใน 3 ของธุรกิจท้องถิ่นที่สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ นักวิจัยสังคมศาสตร์ อู่ฮั่น อะคาเดมีกล่าวว่า เศรษฐกิจเมืองอู่ฮั่นจะกลับมาฟื้นตัวได้ไม่ใช่แค่เพียงจากการเปิดโรงงานและธุรกิจใหญ่ แต่ร้านค้าเล็ก ๆ ตามถนนในเมืองก็เป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลกลับเพิกเฉยในการดูแลผู้ประกอบการท้องถิ่นรายย่อยเหล่านี้

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า หลายเดือนหลังจากเมืองอู่ฮั่นไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 คนในเมืองกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่บาดแผลทางเศรษฐกิจของชาวอู่ฮั่นยังคงหลงเหลืออย่างเห็นได้ชัด “วาง ยาน” ผู้จัดการโรงแรมแห่งหนึ่งกล่าวว่า โอกาสที่ธุรกิจจะกลับมามีกำไรเป็นไปได้น้อยมาก แม้ปัจจุบันอัตราการจองห้องโรงแรมจะขึ้นมาถึง 90% ของปีที่แล้ว แต่ราคาห้องพักลดลง 50% อยู่ที่เพียง 200 หยวนต่อคืน (29 ดอลลาร์สหรัฐ)

ขณะที่เจ้าของร้านเกี๊ยวบอกว่า ได้เริ่มกลับมาเปิดขายอีกครั้งในช่วงปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ร้านเกี๊ยวยังทำรายได้เพียงครึ่งเดียวจากช่วงก่อนทุกอย่างจะปิดตัวลง ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะคนไม่ต้องการออกไปกินอาหารนอกบ้าน หรือไม่มีเงินเพราะไม่ได้ทำงานมาหลายเดือน

ตลาดฮั่นโข่ว (Hankou) ในตัวเมืองอู่ฮั่น ที่เคยมีลูกค้ามากมาย ตอนนี้แทบไม่มีผู้คนหลงเหลือ ร้านค้าจำนวนมากยังคงปิดตาย เจ้าของร้านชาแห่งหนึ่งกล่าวว่า ธุรกิจดีขึ้นกว่าช่วงโควิด-19 นิดเดียว และอาจจะต้องหางานอื่นเสริม เพราะถึงแม้ร้านค้าเปิดทำการปกติ แต่ยังคงขาดทุน และถ้าโรคกลับมาระบาดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือฤดูหนาว ธุรกิจอาจจะไปไม่รอด


เส้นทางของธุรกิจท้องถิ่นแสดงให้เห็นถึงอีกขั้วของเศรษฐกิจ เมื่อเทียบกับภาพเขตอุตสาหกรรมในเมืองอู่ฮั่น โรงงานที่เปิดและพนักงานนับหมื่นชีวิตที่กำลังประกอบมือถือและแท็บเลตนับแสนเครื่องต่อวัน อาจไม่สามารถเป็นตัวชี้วัดภาพรวมของเศรษฐกิจอู่ฮั่นได้ทั้งหมด เพราะอีกด้านยังมีภาพของร้านค้า ผู้ประกอบการที่ยังคงปิดตาย จนถึงปัจจุบันยังคงปรากฏอยู่เป็นบาดแผลที่ยังฝังลึก