บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน “หัวเว่ย” วางแผนระงับลงทุน-เลิกจ้างพนักงานในออสเตรเลียกว่า 1,000 คน จาก 1,200 คน ท่ามกลางความสัมพันธ์ตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศ
วันที่ 22 กันยายน 2563 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า “หัวเว่ย เทคโนโลยี” บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน มีแผนลดจำนวนแรงงานและการลงทุนในประเทศออสเตรเลีย ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างรัฐบาลจีนและรัฐบาลออสเตรเลีย นับตั้งแต่ที่ออสเตรเลียแบนหัวเว่ยเข้าร่วมโครงการวางระบบและพัฒนาครือข่าย 5 จีในปี 2018 โดยอ้างถึงความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติและการถูกแทรกแซงทางการเมืองy;
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
นายเจเรมี่ มิทเชล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจการองค์กรของหัวเว่ยประจำออสเตรเลีย ระบุในแถลงการณ์ว่า “การแบนการวางระบบและพัฒนาเครือข่ายหัวเว่ย 5G ในครั้งนั้น ทำให้บริษัทต้องลดจำนวนพนักงานด้านเทคโนโลยีขั้นสูงและมีค่าจ้างสูงรวมกว่า 1,000 ตำแหน่ง จากที่มีพนักงาน 1,200 คน ทำให้เหลือพนักงานน้อยกว่า 200 คน และในปีหน้าเราจำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานอีก”
นอกจากนี้หัวเว่ยได้ระงับการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนามูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (72.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตั้งแต่ถูกห้ามวางระบบและพัฒนาเครือข่าย 5G และเมื่อเดือนที่แล้วบริษัทประกาศว่าจะยุติการเป็นสปอนเซอร์สโมสรรักบี้ของออสเตรเลียเร็วกว่ากำหนด 1 ปี เนื่องจากการชะลอตัวของธุรกิจ
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างออสเตรเลียและจีนในปีนี้ เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น ภายหลังที่ออสเตรเลียเรียกร้องให้มีการสอบสวนระหว่างประเทศเกี่ยวกับที่มาในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในเมืองอู่ฮั่นของจีน เป็นเหตุให้รัฐบาลจีนแสดงความไม่พอใจกับความเคลื่อนไหวดังกล่าว
ส่งผลให้ทางการจีนตอบโต้ด้วยการแบนสินค้าหลายรายการจากออสเตรเลีย เช่น ระงับการนำเข้าเนื้อวัวออสเตรเลีย การตั้งกำแพงภาษีข้าวบาร์เลย์ และการสอบสวนกลไกการทุ่มตลาดไวน์ของออสเตรเลีย